ระดมสมองเร่งลงทุน 'อีอีซี' เคลื่อนศก.อนาคตใหม่ยั่งยืน
ระดมสมองเร่งลงทุน “อีอีซี” เคลื่อนศก.อนาคตใหม่ยั่งยืน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม บรรยายพิเศษ “เปิดแผนโลจิสติกส์ ยกระดับ EEC” และนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก บรรยายพิเศษในหัวข้อ “EEC บริบทใหม่พัฒนาประเทศไทย” วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ห้องประชุม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เป็นโครงการที่สำคัญที่สุดในรัฐบาลปัจจุบัน ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาและปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ แต่การจะขับเคลื่อนโครงการอีอีซีได้ ต้องขับเคลื่อนโดยองค์รวม ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคประชาชน ภาคการศึกษา และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน หัวใจหลักของอีอีซีจึงอยู่บนพื้นฐานของการปรับเปลี่ยนทุกภาคส่วน ขั้นตอนการดำเนินโครงการจึงมีความซ้ำซ้อน แต่หากโครงการนี้เกิดขึ้นได้จริงจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน
"เศรษฐกิจของประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ได้ให้สัญญาณแล้วว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พอที่จะปรับโครงสร้างต่างๆ มีความโดดเด่นในด้านยุทธศาสตร์และที่ตั้ง จึงถือเป็นโอกาสให้ประเทศไทย และตอนนี้เราก็มีการหารือ ทำข้อตกลงทางด้านความร่วมมือกับหลายประเทศ ล่าสุดก็เพิ่งทำความร่วมมือกับทางรัสเซีย ที่มีทักษะทางด้านเทคโนโลยี และให้ความสนใจทางด้านการศึกษา ให้ความสนใจเกี่ยวกับโครงการอีอีซี และเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาคนเช่นเดียวกับอEEC ” นายอุตตม กล่าว
ในขณะที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บรรยายพิเศษถึงการพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในโครงการ EEC ว่า เพื่อทำให้เกิดการเดินทางแบบไร้รอยต่อ หรือ One Seamless Transport จะต้องเชื่อมโยงทั้งการเดินทางทางบก-น้ำ-อากาศ และเตรียมความพร้อมให้พื้นที่ EEC รองรับการขยายตัวของความเจริญที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะทำให้ประเทศไทย ได้เปรียบในการเป็นจุดเชื่อมโยงของเอเชีย ยกระดับโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถทางด้านระบบคมนาคม ขนส่ง ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก กล่าวว่า ประเทศไทยมีพื้นฐานทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เทคโนโลยีต่างๆ ก็มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ส่วนที่สำคัญคือการพัฒนาคนเพื่อมารองรับเทคโนโลยีเหล่านี้ จึงจะทำให้เข้าสู่กระบวนการที่ทำให้สิ่งที่เราพัฒนานั้นยั่งยืน ซึ่งถือเป็นบริบทใหม่ในการพัฒนาประเทศไทย
นายณัฐพล นิมมารพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระบุว่า โจทย์ใหญ่ด้านดิจิทัลที่จะผลักดันเศรษฐกิจต้องกลับมามองที่ทรัพยากรบุคคล เนื่องจากบุคลากรไทยที่เข้าใจหรือพัฒนาด้านดิจิทัลมีน้อย ระบบการศึกษาไม่ตอบโจทย์ หลักสูตรไม่สอดรับกับธุรกิจดิจิทัลสมัยใหม่ โดยได้หยิบยกรายงานที่ทำการสำรวจการเข้าถึงอินเทอร์เนตผ่านอุปกรณ์ พบเด็กไทยมีสัดส่วน 68% ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อลงไปในรายละเอียด น่าตกใจที่การเข้าถึงนั้นเรากลับไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซ้ำร้าย ‘เกมส์’ คือสัดส่วนที่ถูกดข้าถึงมากที่สุด ดังนั้นต้องมองย้อนกลับไป ทำอย่างไรจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างจริงจรัง และทำอย่างไรไทยถึงจะพัฒนาบุคลากรด้านนี้เพียงพอ