สั่งตั้งคกก.สอบ20ตร.นครบาล เซ่นเข้าแถวรับอั่งเปา สรุปผลใน7วัน

จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายสวมเครื่องแบบ เข้าคิวต่อแถวยาวยกมือไหว้รับซองอั่งเปาจากชายคนหนึ่ง ภายในบ้านพักหลังใหญ่ช่วงวันตรุษจีนที่ผ่านมา เป็นบ้านของผู้กว้างขวางคนหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. ได้สั่งกำชับไว้แล้วว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนห้ามตำรวจเข้าไปรับหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ต่างๆ อย่างแต๊ะเอีย หรืออั่งเปาในวันตรุษจีน ซึ่งหากพบจะดำเนินการมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดนั้น

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้น พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วันแล้ว ภายหลังจากที่ปรากฏภาพคลิปวิดีโอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กรณีการตรวจสอบข้อบกพร่องทางวินัยไปจนถึงความผิดทางอาญานั้น ต้องดำเนินการตรวจสอบดูว่าผู้ให้เป็นใคร มีเจตนาอย่างไร ทำไมจึงมีการบันทึกภาพคลิปวิดีโอมาเผยแพร่

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวอีกว่า เนื่องจากลักษณะการถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าวน่าจะเป็นกลุ่มของคนที่มอบอั่งเปาให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 60 นาย รวมถึงเป็นไปได้หรือไม่ที่มูลค่าซองอั่งเปาที่แจกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีมูลค่ามากเกินกว่าตามที่กฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำหนด ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อให้เกิดความชัดเจนของทางบก.น.7 ส่วนจะมีพื้นที่อื่นๆ อีกหรือไม่นั้น ยังไม่พบว่ามีการรับอั่งเปาในลักษณะเดียวกันแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางบช.น.จะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้นให้เกิดความชัดเจนต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบก.น.7 จำนวนกว่า 20 นายเท่านั้นที่ไปรับอั่งเปา โดยผู้ที่แจกอั่งเปานั้นคือ ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ รองสว.กก.4 บก.ส.1 บช.ส. ยังอยู่ในราชการ แต่ไม่ทราบว่ามีอาชีพอื่นอย่างไรถึงมีเงินมาแจกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนกันเป็นผู้แจกและผู้ที่ดำเนินการถ่ายก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผู้ได้รับแจกก็มีความสนิทสนมกัน แต่การรับแจกอั่งเปาดังกล่าวเดินวนรับค่อนข้างเยอะถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จากการตรวจสอบครั้งแรกคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดบก.น.7 ทั้งหมด แต่จริงๆ มีเพียง 20 กว่านายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาทั้งหมดส่งข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาให้ภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ต่อไป