รฟท.จ่อชงครม.อนุมัติสร้างรถไฟทางคู่ 9 เส้น

รฟท.จ่อชงครม.อนุมัติสร้างรถไฟทางคู่ 9 เส้น

รฟท. จ่อชงครม.อนุมัติสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 2 เส้นทาง จากทั้งหมด 9 เส้นทาง

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ว่า ในเดือนมีนาคมนี้ รฟท.จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 2 เส้นทาง จากทั้งหมด 9 เส้นทาง คือ 1.ทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และ2.ทางคู่ช่วงบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม โดยทั้ง 2 เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางรถไฟสายใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 7 เส้นทางอยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(ศสช.)พิจารณา โดยจะนำเสนอ ครม.อนุมัติเพื่อก่อสร้างได้ครบทั้งหมดในปีนี้แน่นอน

นายอาคม กล่าวว่า รฟท.ยังเตรียมยกระดับรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ให้เป็นระบบรถไฟฟ้า รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญรถไฟทางคู่อีก 4 เส้นทางให้เป็นระบบไฟฟ้าด้วย คือ 1.ทางคู่ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา 2.กรุงเทพฯ-หัวหิน 3.กรุงเทพฯ-นครสวรรค์ และ4.กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา เนื่องจากได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความคุ้มค่าในการปรับเป็นระบบไฟฟ้า ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนจะเริ่มดำเนินการในเส้นทางไหนก่อน และจะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อไหร่ต้องรอการศึกษาออกแบบก่อน

นายอาคม กล่าวว่า ทั้งนี้พบว่า รฟท.ยังต้องการบุคลากรเข้ามาดำเนินงานเพิ่มเติมให้ถึง 1.9 หมื่นคน จากปัจจุบันมี 1.02 หมื่นคน เพื่อรองรับระยะทางรถไฟที่จะมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 และ 2 แล้วเสร็จ โดยเฉพาะพนักงานขับรถ ที่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถรับบุคลากรเพิ่มเติมตามจำนวนที่ต้องการได้ เนื่องจากติดมติ ครม.ที่จำกัดการรับบุคลากรไว้อยู่ ดังนั้นคาดว่าเดือนมีนาคมนี้จะเสนอ ครม.เพื่อยกเลิกมติ ครม.เดิมเพื่อเปิดทางให้ รฟท.สามารถเพิ่มอัตรากำลังได้

นายอาคม กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียนวิศกรรมรถไฟนั้น จะมีการยกระดับเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านรถไฟ โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาให้กับ รฟท.เป็นหลัก แต่ก็จะเปิดกว้างให้กับผู้ที่ต้องการไปทำงานกับผู้ให้บริการรถไฟฟ้าต่างๆด้วย โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการ(บอร์ด) รฟท.ไปพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันก็มอบหมายนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานอนุกรรมการพัฒนาบุคลากรทางรางและงานวิจัยต่างๆด้วย