รมช.พาณิชย์ มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ยังสดใส ราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง

รมช.พาณิชย์ มั่นใจส่งออกข้าวปีนี้ยังสดใส ราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง

"ชุติมา" รมช.พาณิชย์ มั่นใจสถานการณ์ส่งออกข้าวปีนี้ยังสดใส เผยราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง ปีที่แล้วส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ปริมาณ 11.63 ล้านตัน

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงตั้งแต่ 1 ม.ค.-6 ก.พ. ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกประมาณ 1 ล้านตัน และเป็นการส่งออกข้าวขาว 0.77 ล้านตัน ราคาส่งออกข้าวขาวอยู่ระหว่าง 422-470 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน คำนวณเป็นราคาข้าวเปลือกที่ประมาณ 7,550-8,200 บาทต่อตัน ซึ่งสูงกว่าราคาข้าวขาวของปีที่ผ่านมา

โดยในปี 2560 ไทยส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ปริมาณ 11.63 ล้านตัน และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกข้าวขาวมากที่สุดปริมาณกว่า 5 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 43% ของปริมาณการส่งออกข้าวรวม โดยราคาส่งออกข้าวขาวอยู่ระหว่าง 370 – 450 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน คำนวณเป็นราคาข้าวเปลือกที่ประมาณ 7,500 - 7,800 บาท ต่อตัน ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรและตลาดทั้งในและต่างประเทศรับได้

สำหรับการส่งออกข้าวชนิดอื่นๆ ของไทย ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวอินทรีย์ (Organic) ข้าวสีชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพสูงของไทยรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนและสร้างความตระหนักรู้เพื่อขยายตลาดข้าวที่มีมูลค่าสูงส่งผลให้ข้าวคุณภาพดีเป็นที่นิยมของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยระดับราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปี 2560 กับ ต้นปี 2561 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดรับกับแผนงานการบุกตลาดของกระทรวงพาณิชย์ในประเทศผู้นำเข้าสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง สิงค์โปร์ และภูมิภาคอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลาง ทำให้ข้าวไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รัฐบาลได้มีการกำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อาทิ ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวแบบนาแปลงใหญ่ สนับสนุนปัจจัยด้านการเก็บเกี่ยว สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก ส่งเสริมการสร้างยุ้งฉางให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร และการจองรถเกี่ยวข้าวผ่านแอปพลิเคชัน เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรและเพื่อรักษาราคาข้าวไทยให้มีเสถียรภาพอย่างเป็นระบบยั่งยืนต่อไป

รมช.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานว่าหน่วยงานองค์การอาหารแห่งชาติ (National Food Authority : NFA) ของฟิลิปปินส์จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวขาวปริมาณ 250,000 ตัน ในช่วงเดือนมี.ค. 61 ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลดีต่อตลาดข้าวไทย ทำให้มีตลาดมารองรับผลผลิตข้าวนาปรังฤดูกาลผลิตใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงเวลาอันใกล้นี้ โดยข้าวขาวป็นชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากที่สุด แต่มีการแข่งขันด้านราคามากในตลาดโลก เนื่องจากไทย เวียดนาม พม่า และกัมพูชา สามารถผลิตได้ในปริมาณมาก และเป็นข้าวคุณภาพปานกลางที่เหมาะกับผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่มีกำลังซื้อจำกัด และโดยที่ข้าวขาวที่ไทยผลิตได้เกือบทั้งหมดจะเป็นพันธุ์ข้าวขาวพื้นแข็ง กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งส่งเสริมการผลิตข้าวขาวพื้นนิ่มซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งจะขายได้ราคาดีกว่าข้าวขาวพื้นแข็งประมาณ 50-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน โดยการเพิ่มสัดส่วนการส่งออกข้าวขาวพื้นนิ่มแทนการส่งออกข้าวขาวพื้นแข็งให้มากขึ้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาข้าวขาวต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมที่ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศรับได้ด้วย

ภาพจาก-moc.go.th