เตือนภัย! หนุ่ม-สาวอยากกู้เงินแสน เจอนักต้มตุ๋นสูญเงินซ้ำ

เตือนภัย! หนุ่ม-สาวอยากกู้เงินแสน เจอนักต้มตุ๋นสูญเงินซ้ำ

เตือนภัยคนร้อนเงิน! หนุ่ม-สาวโรงงานเมืองแปดริ้ว เจอนักต้มตุ๋นสูญเงินหลายหมื่น หวั่นประชาชนทั่วไปที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ต้องตกเป็นเหยื่อ

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.61 เวลา 09.30 น.นายยุทธนา อายุ 29 ปี พร้อมด้วย น.ส.ปรียาดา อายุ 30 ปี ผู้เสียหายถูก นายศิริชัย สมัคคี อายุ 32 ปี ที่อ้างตัวเป็นผู้ประกอบธุรกิจทำเต้นรถยนต์มือสอง หรือ “ณัฏฐรถบ้าน” และเป็นนายหน้าในการช่วยเหลือลูกค้ารับจัดการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินให้แก่ผู้ที่กำลังเดือดร้อนต้องการเงินกู้ให้สามารถผ่านการพิจารณาปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้โดยง่าย โดยจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการดำเนินการคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 5 เปอร์เซ็นต์ก่อนล่วงหน้าจากยอดเงินกู้ทั้งหมดในอัตราแสนละ 5 พันบาท ซึ่งตนเองได้หลงเชื่อเพราะเขาพูดจาดี และดูมีความรู้ทางด้านสถาบันการเงินจนดูน่าเชื่อถือจึงยินยอมดิ้นรนไปหาหยิบยืมเงินจากญาติ และเพื่อน มาโอนจ่ายให้แก่นายศิริชัย ไปก่อนตามที่เขาเรียกร้องเสนอมาเป็นเงิน 20,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาทางด้านเครดิต 10,000 บาท รวมถึงค่าปรับแต่งหมุนเวียนเงินหน้าบัญชีอีก 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 5 หมื่นบาท

โดยเหยื่อ เล่าว่า มีอาชีพเป็นพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม แต่อยากหาอาชีพเสริมทำในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากขณะนี้ทางโรงงานที่ทำงานอยู่ไม่มีโอทีทำ จึงได้รวบรวมเงินที่มีอยู่ไปออกรถยนต์กระบะมาใช้งานเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะใช้ไปรับงานซ่อมเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากตนมีความรู้ติดตัวเกี่ยวกับระบบเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ ไว้เป็นอาชีพเสริม แต่หลังจากออกรถยนต์มาแล้วกลับไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในการซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือช่างแอร์เพราะใช้เงินไปในการออกรถจนหมด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาเงินกู้มาลงทุน

จากนั้นจึงได้สนใจเงินกู้จาก นายศิริชัย ที่มีการโฆษณาประกาศตัวผ่านทางโซเชียล ว่า “ณัฏฐ รถบ้าน” เป็นผู้ให้บริการเงินกู้ อีกทั้งยังมีคนรู้จักแนะนำด้วยว่านายศิริชัย หรือ นายณัฏฐ รายนี้เคยทำงานอยู่กับวงการค้าขายรถมือสอง หรือเต้นรถจริงๆ เพราะเคยอยู่หอพักติดกัน จึงได้ตัดสินใจติดต่อไปเพื่อขอสินเชื่อกู้เงินจาก นายณัฏฐ ในลักษณะของการรีไฟแนนซ์ จนมีการติดต่อพูดคุยกันทั้งทางไลน์ และทางโทรศัพท์ โดยเขาเป็นคนพูดจาดีมาก คุยดีมาก

ประกอบกับเขายังมีบุคลิกหน้าตาดี การพูดจาเหมือนกับผู้ที่มีความรู้ทางด้านระบบการเงินการธนาคารเป็นอย่างดีจนน่าเชื่อถือ พวกตนจึงยินยอมส่งเอกสารการขอยื่นกู้เงินไปจำนวน 300,000 บาท ด้วยข้อเสนอในการผ่อนชำระคืนที่น่าสนใจ คือ เพียงเดือนละ 3,900 บาทเท่านั้น ให้แก่ นายณัฏฐ แต่หลังจากที่ได้ส่งเอกสารไปแล้ว ทางนายณัฏฐ ได้ระบุว่า แฟนของตน คือ น.ส.ปรียาดา นั้นติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร จากกรณีที่เคยไปเช่าชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ป้ายแดงมาแล้ว แต่รถกลับมีปัญหาข้อบกพร่อง จึงได้นำรถไปส่งคืนให้แก่ทางร้านผู้จำหน่าย จากนั้นก็ไม่ได้สนใจติดตามเรื่องดังกล่าวอีกเพราะเข้าใจว่า เมื่อรถมีปัญหาแล้วเมื่อนำไปส่งคืนให้แก่ทางร้านค้าผู้จำหน่ายก็น่าจะจบ และไม่คิดว่าจะมีผลกับเครดิตบูโรดังกล่าวด้วย

เมื่อทราบว่ามีปัญหาดังกล่าวแล้ว นายณัฏฐ จึงได้เสนอวิธีการแก้ไขปัญหาว่า เขาสามารถที่จะช่วยเหลือดำเนินการแก้ไขให้ชื่อนั้นถูกลบออกไปจากแบล็คลิสต์ได้ โดยที่เขาขอคิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการปลดแบล็คลิสต์ เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ตนจึงยินยอมจ่ายและโอนเงินให้ไปอีก

ต่อมาไม่นาน นายณัฏฐ ได้ติดต่อกลับมาอีกว่าดูจากสเตทเม้นท์หน้าบัญชีธนาคารที่ใช้ยื่นกู้ไปแล้วนั้น บัญชีการหมุนเวียนทางการเงินของตนนั้นไม่สวย หากต้องการจะทำการกู้เงินตามจำนวนที่ต้องการ คือ 3 แสนบาท จะต้องทำการแก้ไขปรับแต่งตรงจุดนี้ด้วย ด้วยการขอให้ตนนั้นโอนเงินเข้าไปให้แก่ นายณัฏฐ อีกจำนวน 20,000 บาท เพื่อที่จะนำไปใช้ในการหมุนเวียนปรับแต่งบัญชี เพื่อให้ตัวเลขในการเดินบัญชีนั้นดูสวยจนสามารถที่จะยื่นขอกู้เงินได้ และรับปากว่าจะโอนคืนให้ในภายหลัง ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการเป็นเวลา 5 วันทำการก็จะได้เงินกู้ตามที่ต้องการ แต่หลังจากเวลาผ่านไปจนครบกำหนดแล้ว กลับยังไม่ได้เงินกู้ตามที่ได้ยื่นขอกู้ไว้และยังติดต่อนายณัฏฐ ไม่ได้อีกทั้งทางไลน์ ที่เคยใช้สนทนาพูดคุยกันและทางโทรศัพท์

หลังรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงแล้ว จึงได้ค้นหาข้อมูลของ นายณัฏฐ ทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลหลายช่องทางจนพบว่า นายณัฏฐ นั้น มีประวัติในการฉ้อโกงและล่อลวงผู้คนที่กำลังเดือนร้อนทางการเงินมาแล้วอย่างโชกโชน ในหลายพื้นที่ ทั้งในเขต จ.ชลบุรี ระยอง และล่าสุดมาที่ จ.ฉะเชิงเทรา นับร้อยราย ตนจึงได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมัย สุดาชาติ พนักงานสอบสวน สภ.แปลงยาว เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วเมื่อวันที่ 2 ก.พ.61 ที่ผ่านมา

ซึ่งการที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องราว และร้องเรียนผ่านทางสื่อนี้ เพราะอยากให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หรือผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ได้เข้ามาดำเนินการจัดการเอาผิดทางกฎหมายต่อ นายณัฏฐรถบ้าน รายนี้ เพื่อไม่ให้เขาไปก่อเหตุหลอกลวงใครได้อีก โดยเฉพาะคนที่กำลังเดือนร้อนทางการเงินอยู่แล้ว ต้องมาเดือดร้อนซ้ำซากเพราะถูกตุ๋นเงินหลอกลวงไปอีก ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเหยื่อจะเป็นคนที่จะต้องทำมาหากิน หรือทำงานโรงงานที่ไม่มีเวลา ที่จะไปติดต่อขอกู้เงินจากทางสถาบันการเงินด้วยตนเอง จนต้องมาตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกับตน

ส่วนความคาดหวังที่จะได้เงินจำนวน 5 หมื่นบาทคืนนั้น ตนคิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว จึงอยากจะเตือนคนที่กำลังคิดที่จะขอกู้เงินจากนายณัฏฐคนนี้ ผ่านทางสื่อให้ทราบ จะได้ไม่ต้องตกกลายเป็นเหยื่อของคนแบบนี้อีก โดยที่เงินที่ตนโอนไปให้แก่นายณัฏฐ นั้น ก็ยังเป็นเงินที่ตนไปหยิบยืมมาจากทางญาติ และเพื่อนๆ มาอีกทอดหนึ่งด้วย จึงเดือดร้อนเป็นอย่างมากในขณะนี้ “ทั้งโดนหลอกลวง ทั้งยังเป็นหนี้สินเพิ่ม” นายยุทธนา กล่าว