MORNING CALL ACTION NOTES (9 ก.พ.61)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวผันผวนแดนลบแดนบวก ภายใต้ปัจจัยบวกจากรัฐบาลสหรัฐฯคลายกังวลชัทดาวน์ แต่ Fund Flow ไหลออก และ น้ำมันอ่อนตัวกดดัน โดยรวม PROP FIN ICT หนุน SET Index ปิดที่ 1,786.66 จุด (+1.22 จุด) Volume 5.59 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -3,377.61 ลบ.  TFEX Net -5,045 สัญญา ตราสารหนี้ -7,310.01 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 221,000 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 45 ปี

+ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะระดับ 43.2 ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปี 2543

+ที่ประชุมสนช.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.อีอีซีแล้วเตรียมประกาศใช้เป็นกม.ต่อไป

-ดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 1,000 จุดท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับการลงมติร่างกฎหมายงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์

-น้ำมันดิบปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากอิหร่านประกาศแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน

-คลัง เผยหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น ธ.ค.60 อยู่ที่ 41.76% ของ GDP โดยหนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นสุทธิ 45,947.43 ล้านบาท

-Fund Flow ต่างชาติพลิกกลับมาขาย 5 วันราว 1.46 หมื่นลบ. ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 31.84  Bath/USD

**จับตาวุฒิสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐโหวตร่างงบประมาณก่อนเที่ยงวันนี้**

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงแรงของตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นในภูมิภาค ราคาน้ำมันปรับลง รวมทั้ง fund flow ผันผวน  โดยมีปัจจัยบวกจากที่ประชุมสนช.ผ่านร่างกฏหมายอีอีซีเรียบร้อยแล้วช่วยหนุนการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกในอนาคต  ดังนั้นคาด SET จะอ่อนตัวลงโดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,755-1,775 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- KCE HANA TU เงินบาทอ่อนค่าสู่ 31.84 บาท/$

- หุ้น Turnaround ใน 4Q60 PSL

- NYT ยอดส่งออกรถยนต์ ธ.ค.โต 11.28% มาที่ 95,834 คัน

- AMATA WHA ร่างพรบ.อีอีซีจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ราวเดือนก.พ.

- AIT ITEL กสทช.เตรียมประมูลเน็ตชนบทเดือน ก.พ. 61

- หุ้นที่ผลประกอบการจะเติบโตในไตรมาส 4/60 ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA D SGP TRUE PTTGC TPCH SYNEX IVL ASIMAR VCOM  ORI GPI

หุ้นแนะนำพิเศษ

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอาหารได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า

• ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงสู่ 31.84 บาท/$ ซึ่งส่งผลดีกับกลุ่มส่งออกในประเทศไทย โดยสินค้าส่งออกหลักในประเทศคือสินค้าอิเล็กทรอนิสก์และอาหาร
• กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เราแนะนำ KCE (ราคาเหมาะสม Consensus เฉลี่ย 87.99) HANA (ราคาเหมาะสม Consensus เฉลี่ย 51.57) เนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกราว 95% ส่งผลให้เป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์สูงสุดเมื่อเงินบาทอ่อน
• กลุ่มอาหาร เราแนะนำ TU (Consensus 77) เนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกราว 90% ทำให้ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

หุ้นมีข่าว   

Analyst Meeting : LHBANK (ราคาปิด 1.69 ซื้อเก็งกำไร Bloomberg Consensus 1.94)

Ø โครงสร้างสินเชื่อปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตที่เริ่มด้วยการเป็นธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อยมีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยสูงถึง 80% ทั้งหมดเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย ปลายปี 60 มีสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย 17% สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 45% สินเชื่อ SME 14% ด้านคุณภาพสินทรัพย์ไม่มีปัญหาจากที่มี %NPL เพียง 1.88% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 2.97% ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่ม Coverage Ratio  ให้มากกว่า 120% จาก 110% ปลายปี 60 (มีต่อ)

Ø การมีพันธมิตรใหม่ CTBC จะช่วยต่อยอดเติมเต็มด้วยธุรกิจ trade finance และ Digital Banking ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมในอนาคต  ซึ่งคาดยังต้องใช้เวลา

Ø Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 3 พันล้านบาท เติบโต 15% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 0.95 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 1.3 เท่า แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

·       ROJNA จะขายหุ้น 26.1% ใน TICON ให้"เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์"ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของเสี่ยเจริญ ราคาหุ้นละ 17.90 บาท คิดเป็นมูลค่า 8.57 พันลบ. คาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.61 ทั้งนี้ เฟรเซอร์สฯจะทำเทนเดอร์ฯหุ้น TICON ในลำดับต่อไป  นอกจากนี้ ROJNA จับมือ"ซากูระจูจิ คอร์ปอเรชั่น"ตั้งบ.ร่วมทุนถือหุ้น 51:49 เตรียมทำธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในเดือนมี.ค.61

·       STEC เผยกลุ่มคอนซอร์เตียมได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF 2 แห่ง คิดเป็นมูลค่างานของบริษัทรวมราว 2 หมื่นลบ.