จ่อให้ตร.ยิงเพื่อนออกจากราชการ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง

จ่อให้ตร.ยิงเพื่อนออกจากราชการ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง

"สารวัตรตำรวจรถไฟ" เตรียมให้ "ตำรวจ" ปืนโหดออกจากราชการ เหตุเวลาเมามีพฤติกรรมรุนแรง พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

กรณีที่ ร.ต.อ.สมสดี สุทธิประภา อายุ 59 ปี รอง สว.ป.ส.รฟ.(หนองคาย) กก.5 บก.รฟ.ใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตถึง 2 นาย คือ ร.ต.ท.ชาญขัย ภาคอินทรีย์ อายุ 61 ปี อดีตตำรวจรถไฟ ที่เกษียณอายุราชการ และ ร.ต.อ.สมชาย สีดายา อายุ 47 ปี รอง สว.ส.รฟ.(หนองคาย) กก.5 บก.รฟ. เหตุเกิดเมื่อเวลา 18.15 น. วานนี้ ที่บ้านเลขที่ 307 หมู่ 9 หนองเหล็ก ซ.3 ชุมชนหนองเหล็ก เทศบาลนครอุดรธานี โดย ร.ต.อ.สมสดีฯ มือปืนที่ก่อเหตุ อยู่ในสภาพเมา ทำให้ไม่สามารถสอบสวนสาเหตุที่ทำให้ ร.ต.อ.สมสดีฯ ก่อเหตุสะเทือนขวัญได้

ล่าสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 ความคืบหน้าการสอบปากคำถึงสาเหตุที่ทำให้ ร.ต.อ.สมสดี ก่อเหตุยืงเพื่อนตำรวจรถไฟด้วยกันเสียชีวิตถึง 2 นาย โดยทาง ร.ต.อ.ชินาธิป บัวเข็ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าของคดี เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้หลังควบคุมตัว ร.ต.อ.สมสดี ผู้ต้องหา ที่มาอาการเมามากพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงทำให้ไม่สามารถสอบปากคำเบื้องต้นได้ ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ทางผู้ต้องหาเริ่มสร่างเมา จึงนำตัวมาทำการสอบสวนเบื้องต้น ให้การว่า ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงตำรวจรถไฟทั้ง 2 คนจริง

"ซึ่งหลังจากที่วันที่ 7 ก.พ. 2561 มีการร่วมวงดื่มเหล้ากันที่บ้านของ ร.ต.ท.ชาญชัย 1 ในผู้เสียชีวิต ซึ่ง ร.ต.ท.สมสดี อ้างว่า เกิดความเครียดและน้อยใจ เนื่องจากได้ถูกผู้ตายพูดจาดูถูกเหยียบหยาม ในเรื่องที่ว่าตัวของ ร.ต.อ.สมสดี ที่มีอายุมากแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่มีบ้านมีรถเหมือนกับตำรวจคนอื่น ซึ่งบวกกับความมึนเมาที่นั่งดื่มเหล้ากันมาแต่ช่วง14.00น. พอตกเย็นประมาณ16.00น. ตัวของ ร.ต.อ.สมสดี ได้ลุกออกจากวงเหล้ากลับไปบ้านประมาณชั่วโมงเศษ ได้กลับมาที่บ้านของ ร.ต.ท.ชาญชัย อีกครั้ง โดยนำอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุติดตัวมาด้วย ในขณะที่วงเหล้ากำลังเลิก ทาง ร.ต.อ.สมชาย เดินออกมาสวนกับ ร.ต.อ.สมสดี ได้ชักอาวุธปืนที่เตรียมมายิงเข้าใส่ ร.ต.อ.สมชาย 1นัด ล้มลง ขณะที่ ร.ต.ท.ชาญชัย เจ้าของบ้าน ได้ยินเสียงปืนจึงวิ่งออกมาดู ก็โดนยิงล้มฟุบไปอีก 1 นัดจากนั้นจึงถูกตำรวจที่ไปถึงที่เกิดเหตุเข้าควบคุมตัว"

พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ทางตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรอไว้ก่อน" ซึ่งทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยทางพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำ ร.ต.อ.สมสดีณ อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทางตัว ร.ต.อ.สมสดีฯ รับสารภาพ แต่ไม่ประสงค์ที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จึงไม่ต้องมีการทำแผน เพราะทางผู้ต้องหารับสารภาพในเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนการดำเนินการเรื่องทางวินัยฯ คงเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.สมสดีฯ โดยตรง

ต่อมาเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่งานศพของ ร.ต.ท.ชาญชัย ภาคอินทรีย์ อดีตตำรวจรถไฟ 1 ในผู้ที่เสียชีวิต ที่วัดอาจสุรวิหาร ซ.กำนัน ริมสวนสาธารณหนองบัว เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งทางญาติผู้เสียชีวิต ไม่อนุญาตให้เก็บภาพและให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.ต่างใจ ใจสมุทร สว.ส.รฟ.(หนองคาย) กก.5 บก.รฟ.ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.สมสดีฯมือปืนที่ก่อเหตุ เพื่อขอทราบการดำเนินการเรื่องที่เกิดขึ้น โดย พ.ต.ท.ต่างใจเปิดเผยว่า (ทางโทรศัพท์) ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว ว่ามีตำรวจรถไฟและอดีตตำรวจรถไฟเสียชีวิตรวม 2 นาย และมีตำรวจรถไฟตกเป็นผู้ต้องหา 1 นาย ซึ่งอยู่ในช่วงการพักเวร เบื้องต้นให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย คงจะมีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน รวมทั้งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามมา สำหรับศพตั้งอยู่ที่วัดอาจสุรวิหาร และที่บ้านพัก เราก็จะช่วยเหลือตามระเบียบ

พ.ต.ท.ต่างใจ ใจสมุทร ตอบข้อซักถามว่า เพื่อนตำรวจรู้กันดีว่า ร.ต.อ.สมสดี จะมีปัญหาหากดื่มเหล้าเมา จะมีบุคลิกการใช้ความรุนแรง หลายคนเลี่ยงที่จะไม่ดื่มเหล้าด้วย หากไม่ดื่มก็สามารถทำงานได้ดี ช่วงที่ตนมาเป็นผู้บังคับบัญชาที่นี่ ก็ไม่เคยกระทำผิดจนต้องตั้งกรรมการสอบ แต่ก่อนหน้านั้นถูกสอบเรื่องยิงปืนขึ้นฟ้า เหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากการคุยในวงเหล้า เรื่องเกษียณอายุราชการ เป็นช่วงที่ ร.ต.อ.สมสดี ใกล้จะเกษียณพอดี ซึ่งก็ยังไม่มีบ้านของตัวเอง ก็คงจะเมาแล้วคิดไปเองจนบานปลาย