ไทยดับเบิลยูพีเอสโดดลุยสนามคลาวด์

ไทยดับเบิลยูพีเอสโดดลุยสนามคลาวด์

จับมือ “ไอเน็ต” ส่งโซลูชั่นโปรแแกรมสำนักงานบนคลาวด์รูปแบบใหม่แบรนด์ “ซุปเปอร์ดั๊ก” ลุยตลาดไทยอย่างเป็นทางการ ชูจุดต่างใช้งานง่าย ปลอดภัย ราคาถูกกว่าคู่แข่ง 60% ตั้งเป้าภายใน 3 ปีผู้ใช้งานทะลุ 8 ล้านราย ปั้นไทยฮับลุยตลาดอาเซียนภายใน 5 ปี

นายพงศ์พรหม ยามะรัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยดับเบิลยูพีเอส ในเครือบริษัท อาร์เอ็มไอ โกลบัล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการโปรแกรมสำนักงานภายใต้ชื่อ ไทยดับเบิลยูพีเอส (ThaiWPS) กล่าวว่า จับมือ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที ร่วมพัฒนา “ซุปเปอร์ดั๊ก (SuperDuck)” นวัตกรรมระบบโปรแกรมสำนักงานบนเทคโนโลยีคลาวด์

ทั้งนี้ ชูแนวคิดแพลตฟอร์มคลังข้อมูลเพื่อคนไทย มุ่งบริการคนไทยในราคาประหยัด รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมมีส่วนร่วมผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม

เขากล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ล่าสุดประกอบด้วย "วัน ออฟฟิศ 2561 (One Office 2561)” ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาทต่อเดือน และ "วันดีวีไอ 2561 (One VDI 2561)" ราคาเริ่ม 999 บาทต่อเดือน โดยเป็นโปรแกรมสำนักงานที่ประกอบด้วยโปรแกรมจัดการเอกสาร นำเสนองาน และการคำนวณ ซึ่งจำเป็นสำหรับสำนักงานและบุคคลทั่วไป

“จุดเด่นที่สำคัญของเราคือด้านราคาเทียบกับคู่แข่งถูกกว่า 40-60% ใช้งานง่าย มีความปลอดภัย ทั้งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องอัพเดทฮาร์ดแวร์ หรือ ระบบปฏิบัติการใดๆ”

สำหรับแนวทางการตลาด ชูจุดขายเรื่องความน่าเชื่อถือ มีผลิตภัณฑ์ที่ดี บริการที่ดี สำคัญคุ้มค่าแก่การลงทุน ด้านกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ปีแรกโฟกัสธุรกิจองค์กร กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เอสเอ็มอี รัฐวิสาหกิจ จากนั้นจะขยายฐานไปสู่ผู้ใช้งานตามบ้านต่อไป

บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า จากปัจจุบันมีลูกค้าธุรกิจองค์กร 14 ราย ผู้ใช้งานราว 1,000 ราย ภายใน 3 ปี หวังมีผู้งานไม่น้อยกว่า 8 ล้านราย มากกว่านั้นวางประเทศไทยเป็นฮับสำหรับบุกตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยโมเดลซอฟต์แวร์แอสอะเซอร์วิสภายใน 5 ปีนับจากนี้

พร้อมกันนี้ หวังสนับสนุนองค์กรไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งต้องมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นพื้นฐาน อาทิ อินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ ช่วยให้คนไทยตามภูมิภาคต่างๆ สามารถเข้าถึงการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกกฏหมายและคุ้มค่า

ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายมีจำนวนสูงประมาณ 70-75% ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดในประเทศไทย ปัญหาดังกล่าวยังส่งผลทำให้เกิดช่องโหว่ให้มัลแวร์โจมตี

พร้อมระบุว่า ไทยนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ที่ผ่านมาติดอันดับประเทศท็อป 20 ของโลกที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุด ด้วยสัดส่วนการเข้าถึง 83.5% หรือราว 57 ล้านราย จากจำนวนประชากร 68 ล้านราย

นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า บทบาทของไอเน็ตทำหน้าที่ผู้สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอซีทีที่แข็งแรงและปลอดภัย พร้อมด้วยบริการคลาวด์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งตั้งบนดาต้าเซ็นเตอร์ 3 แห่งในประเทศไทย ซึ่งทุกแห่งจะทำงานเป็นศูนย์ข้อมูลหลัก และศูนย์ข้อมูลสำรอง ที่สามารถทำงานทดแทนซึ่งกันและกันได้ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ จะสามารถให้บริการแก่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้บริการของไอเน็ตมีอัตราการเติบโตมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้วยยอดผู้ใช้บริการกว่า 1,400 ราย ขณะที่โดยเฉลี่ยธุรกิจคลาวด์สามารถเติบโตปีละ 40-50% ทุกปี จากปีก่อนหน้าที่ใช้งบการลงทุนหลัก 1,000 ล้านบาทปูทางไว้แล้ว จากนี้เป็นการต่อยอดพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น