กู้ได้แล้วซากรถโจรกรรมจมน้ำโขง พบฟอร์จูนเนอร์หรู

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 ที่จังหวัดนครพนม ว่าที่ร้อยตรี ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด. 23 ประสานงานร่วมกับ น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 237 อ.ท่าอุเทน นาวาโทกริช กองศรี หัวหน้าสถานีเรืออำเภอบ้านแพงนำ ชุดเฉพาะกิจ ตชด. 237 เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม (นรข.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยนครพนม เร่งกู้ซากรถยนต์ หลังขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ได้ลำเลียงลงเรือหางยาวต่อเป็นแพ เพื่อส่งข้ามไปขายประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อกลางดึกของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ มีการสืบสวนพบการกระทำผิด จึงพยายามเข้าตรวจยึดจับกุม ทำให้ขบวนการจรกรรมรถยนต์ ข้ามชาติ พยายามขับเรือหางยาวที่ต่อเป็นแพลำเลียงรถยนต์ หลบหนี ก่อนจมเรือทิ้งของกลาง และขับเรือหางยาวอีกลำ หลบหนี เหตุเกิดบริเวณริมแม่น้ำโขง บ.เหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

 ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันค้นหา นำเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมใต้น้ำ นรข.นครพนม ระดมค้นหา และนำรถเครน ขนาดใหญ่ มาลากยกขึ้นจากน้ำโขง พบว่าเป็นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กค 5784 สตูล ซึ่งอยู่ในสภาพพังเสียหายทั้งคัน เพราะไหลไปตามกระแสน้ำโขง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานหาที่มา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นจากากรตรวจสอบเชื่อว่า รถยนต์คันดังกล่าว มีการลักลอบนำรถยนต์จากขบวนการโจรกรรม มารลงเรือที่ต่อเป็นแพ เตรียมส่งข้ามไปขาย ซึ่งมีการตรวจยึดจับกุมบ่อย ครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้ายกสูง รวมถึง ฟอร์ด และมาสด้า แบบยกสูง เพราะเป็นที่นิยมของตลาดรถโจรกรรมข้ามชาติ มีราคาซื้อขายกัน คันละประมาณ 3–5 แสนบาท ตามสภาพ ส่วนที่มาปัจจุบัน จะไม่เน้นการโจรกรรม จะนำรถยนต์มาจากบ่อนการพนัน ที่มีลูกค้าไปจำนำ รวมถึงรถหนีไฟแนนซ์ และมีโจรกรรมเพียงบางส่วน

ล่าสุดทางด้าน เจ้าหน้าที่ได้บรูณาการ ร่วมกัน ระหว่าง ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารกองกำลังสุระศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ นรข. ฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตั้งกองบัญชาการทางยุทธวิธี เสริมกำลังลาดตระเวนเข้ม เพื่อเป็นการกดดัน สกัดกั้นปราบปรามจับกุม และตัดเส้นทางลำเลียงขนส่ง ป้องกันการลักลอบส่งรถยนต์โจรกรรมข้ามไปขาย ประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมประสานความร่วมมือกับชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยแจ้งเบาะแสหา