GLOW - ถือ

กำไรสุทธิออกมาตามทุกคาดการณ์

GLOW รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4/60 ที่ 1,938 ล้านบาท เติบโต61% YoY แต่ลดลง 20% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษจำนวน 326 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 1,612 ล้านบาท อ่อนตัวลง 2% YoY และ 27% QoQ โดยกำไรสุทธิออกมาตามที่เราคาด แต่กำไรหลักต่ำกว่าประมาณการของเราและตลาด 18% เนื่องจากส่วนแบ่งรายได้จาก Gheco-One น้อยกว่าที่ประเมิน

ประเด็นหลักผลประกอบการ

รายได้ (จากการขายไฟฟ้า) สูงขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 5% QoQ ปัจจัยที่หนุนให้รายได้เพิ่มขึ้น YoY นั้นมาจาก Gheco-One (โรงไฟฟ้าถ่านหิน IPP ขนาด 660 เมกะวัตต์, บริษัทถือครอง 65%) ที่ขายไฟเพิ่มขึ้นจากช่วงปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 4/59 ขณะที่รายได้ที่หดตัวลง QoQ มีปัจจัยจากยอดขายไฟฟ้าที่ลดลงตามอุปสงค์ในช่วงโลว์ซีซั่น

ต้นทุนก๊าซที่ลดลง กอปรกับส่วนแบ่งรายได้จาก Gheco-One ที่สูงขึ้น YoY หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 4/60 ขยายตัวมาอยู่ที่ 23.9% จาก 21.5% ในไตรมาส 4/59 (แต่ลดลงจาก 26.9% ในไตรมาส 3/60 เนื่องจากอัตราค่าไฟที่ต่ำลง QoQ) ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.4% ขยายตัวจาก 10.0% ในไตรมาส 4/59 แต่หดตัวลงจาก 18.2% ในไตรมาส 3/60 โดยอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้น YoY จากรายได้พิเศษที่พลิกเป็นกำไร จากที่ขาดทุนในไตรมาส 4/59; แต่ลดลง QoQ เนื่องจากอัตราค่าไฟลดลง QoQ

แนวโน้ม

เบื้องต้นเราประเมินกำไรหลักสำหรับไตรมาส 1/61 ที่ 1,959 ล้านบาท เติบโต 31% YoY และ 21.5% QoQ เราคาดส่วนแบ่งรายได้ของโรงไฟฟ้าหลายแห่งจะเพิ่มขึ้น YoY จากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานในไตรมาส 1/60 (กำลังการผลิตรวม 859 เมกะวัตต์) – ขณะที่แนวโน้มกำไรที่สูงขึ้น QoQ นั้น มีปัจจัยจากอัตราค่าไฟและอุปสงค์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาล

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2561 เดิมที่ 7,880 ล้านบาท

คำแนะนำ

สำหรับในระยะสั้น เราเชื่อว่าบริษัทจะยังสามารถจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2560 ในอัตราที่น่าดึงดูด (4.2 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่าย 5.0% นับเป็นหนึ่งในบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูงที่สุดใน SET) จากข้อมูลในอดีต ราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันที่คณะกรรมการเซ็นต์อนุมัติจ่ายเงินปันผล (ปลายเดือนมี.ค./ต้นเดือนเม.ย.)
และจะปรับฐานลงแรงหลังจากนั้น ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุน “ถือ” GLOW เพื่อรับเงินปันผล ก่อนที่ราคาหุ้นจะปรับฐานลงมา