หลักฐานยังไปไม่ถึงหมายจับ 'อดีต ผบ.ตร.' พันค้ามนุษย์

กรมสอบสวนคดีพิศษ(ดีเอสไอ) - 31 ม.ค.61. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมการปกครอง และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พ.ม.) เพื่อเปิดสำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเทครทอย่างเป็นทางการ และติดตามความคืบหน้าในการขยายผลหลังรับสำนวนคดีจากสน.วังทองหลาง

พ.ต.อ.ไพสิฐ. กล่าวว่า. คณะพนักงานสอบสวนได้กำหนดแนวทางการทำงานโดยเริ่มต้นจากการตรวจสอบสำนวนของตำรวจว่า การสอบสวนรวบรวมหลักฐานจากพยานแต่ละปากว่าครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ และยังมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม นอกจากนี้ดีเอสไอได้ตรวจสอบเครือข่ายของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์เส้นทางการเงิน โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการรับสินบนได้มอบให้ป.ป.ท.รับไปดำเนินการและขอให้ปปง.เข้าร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมกล้องวงจรปิดยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเชื่อมโยงกับบัญชีรายชื่อที่พบในที่เกิดเหตุ

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอได้รายงานต่อคณะพนักงานสอบสวนว่า ล่าสุดได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้เพิ่มอีก 1 ราย คือ นายเฉลียว จันทร์พิมพ์ ซึ่งได้ร่วมกับนายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ บังคับเด็กหญิงอายุ 12 ปี ค้าประเวณี คงเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับของดีเอสไอ 5 หมาย นอกจากนี้ยังพบว่าสตช.ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน 13 หมาย เป็นผู้ต้องหาชุดเดียวกับดีเอสไอ 6 หมาย จึงเหลืออีก 7 หมาย ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ส่วน ดีเอสไอและสตช.อยู่ระหว่างการจัดชุดติตามตัวผู้ต้องหา ส่วนนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และภรรยา ข้อมูลการเดินทางนอกประเทศในช่องทางตามปกติยังไม่พบ แต่ส่วนที่มีข้อมูลระบุว่าหลบหนีไปตามช่องทางธรรมชาตินั้นก็อาจมีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยืนยันจะดำเนินคดีตามหลักฐานที่ปรากฏ หากหลักฐานไปถึงใครก็จะดำเนินการทั้งหมด โดยเฉพาะการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากรายชื่อที่ปรากฏในบัญชีแล้วยังต้องอาศัยหลักฐานอื่นเพื่อยืนยันตัวบุคคลให้ชัดเจน และต้องดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลการติดต่อสื่อสารอื่นประกอบด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวระบุว่าดีเอสไอเตรียมขออนุมัติหมายจับอดีตผบ.ตร.ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับวิคตอเรียซีเครต. พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ข้อมูลในขณะนี้ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ยืนยันว่าดีเอสไอจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน โดยคดีค้ามนุษย์เป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งต้องดำเนินคดีคู่ขนานกันไป ในส่วนของข้อมูลทางการเงินที่เข้าไปแตะกับตลาดหลักทรัพย์นั้น ดีเอสไอเตรียมที่เชิญเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มาเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ เพื่อร่วมวิเคราะห์ข้อมูลว่า หลักฐานทางการเงินที่ดีเอสไอตรวจพบมีเส้นทางเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ได้อย่างไรบ้าง.อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ได้มีการยึดอายัดเพิ่มเติม จากเดิมที่อายัดได้ 300 ล้านบาท. แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เลี่ยงการถูกตรวจสอบ

“สำหรับเหยื่อค้ามนุษย์ที่เป็นเด็ก จากนี้จะเร่งพิจารณามาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อให้เด็กมั่นใจกล้าที่ให้ข้อมูล นอกจากนี้การคุ้มครองพยานยังจะช่วยให้เหยื่อสามารถอยู่ในประเทศไทยได้จนกว่าจะสิ้นสุดการเบิกความในชั้นศาล และหากจำเป็นก็อาจมีการนำพยานขึ้นสืบพยานล่วงหน้าได้ “พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว

แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า วิคตอเรียซีเครทถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงินรายใหญ่มีความเชื่อมโยงกับนักการเมือง กลุ่มทุน และบุคคลมีสี โดยคนกลุ่มเหล่านี้จะนำเงินจากธุรกิจสีเทาเข้าไปฟอกผ่านตลาดหลักทรัพย์ โดยมีนอมินีเข้าไปลงทุนแทน เมื่อได้ผลตอบแทนก็จะแปรสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภท คอนโดมีเนียม และหมู่บ้านจัดสรร ส่วนหนึ่งนำไปลงทุนทกิจการโรงเรียน และสถาบันกวดวิชา เพื่อให้มีธุรกิจสีขาวมาช่วยอำพราง. นอกจากนี้ยังพบมีการนำเงินดังกล่าวมาใช้ในกิจการสโมสรฟุตบอล และอาจมีแนวโน้มว่ามีการฟอกเงินผ่านการซื้อตัวนักเตะจากสโมสรฟุตบอลดังมาไว้ในสังกัด

นอกจากนี้วิคตอเรียซีเครทยังต้องถูกตรวจสอบการทำบัญชีเท็จว่าซื้อน้ำประปามาใช้ แต่ในความเป็นจริงกลับแอบสูบน้ำบาดาลมาใช้ฟรีแล้วผ่องถ่ายเงินกำไรจากกิจการอาบอบนวดออกไปยังกิจการเครือข่าย