'ดีเอสไอ' รอ 'ก.ล.ต.' ชี้เงินอ่างโยงใคร!!

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการสอบสวนคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีในสถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครทว่า ดีเอสไอได้ส่งเรื่องไปยังเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ตรวจสอบประเด็นความเชื่อมโยงของอาบอบนวดกับกลุ่มผู้ถือหุ้นและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบว่า บริษัท ที่มีการเข้าไปถือหุ้นของผู้ต้องหานั้นเกี่ยวข้องสัมพันธ์ หรือได้มาซึ่งเงินจากการกระทำความผิดหรือไม่อย่างไร ตอนนี้จึงไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ ถ้าพูดหรือระบุอะไรออกไปแล้วอาจจะสร้างความเสียหายกับบริษัทที่เกี่ยวข้องได้ ดังนั้นคงต้องรอการตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

สำหรับการติดตามตัวนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ อายุ 61 ปี และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ หรือ ธีระตระกูลวัฒนา อายุ 68 ปี ภรรยานายกำพล เจ้าของอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ดีเอสไอประสานข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอด ยังไม่พบข้อมูลว่าทั้งคู่เดินทางออกประเทศไทยโดยช่องทางปกติ ส่วนจะมีการหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล แต่ก็ให้ชุดสืบสวนจับกุมดีเอสไอหาข่าวทางลับอยู่ตลอด

ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากพบมีรายได้จากวิคตอเรียซีเครทเข้าบัญชีของนายกำพล และนางนิภาแล้ว ยังพบความเชื่อมโยงไปอีกประมาณ 5 บัญชี ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน ทั้งนี้ภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในวันที่ 29 ม.ค.นี้อาจจะมีแถลงความคืบหน้า

แหล่งข่าวจากชุดสืบสวนเปิดเผยว่า สำหรับการตรวจสอบเส้นทางการเงินความเชื่อมโยงของนายกำพล กับกลุ่มนิติบุคคลที่เข้าไปเกี่ยวข้องพบความสลับซับซ้อนของธุรกรรมการเงินพอสมควร โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกลต.ได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากการค้ามนุษย์ โดยจะไล่สายการเงินจากบริษัทที่นายกำพลเข้าไปถือหุ้น ว่าได้รับเงินหรือเกี่ยวข้องจากรายได้ของอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครทหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบความสัมพันธ์ใกล้ชิดของตัวบุคคล จากการติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ