เจ้าของปิ้งย่างแจ้งจับลูกค้า หลังโดนโวยถูกปรับค่าน้ำจิ้ม600บ.

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ภาพในร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลปิ้งย่างแห่งหนึ่ง โดยเป็นถ่ายหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว บนโต๊ะมีถ้วยน้ำจิ้มขนาดใหญ่วางอยู่บนตาชั่ง ซึ่งโพสต์เขียนข้อความระบุว่า ถูกทางร้านดังกล่าวปรับค่าน้ำจิ้มเป็นเงินถึง 600 บาท ในเรื่องดังกล่าว กระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2561 นางจุรีย์ ใยบัว อายุ 40 ปี เจ้าของร้านบางอ้อปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ทะเลเผา ริมถนนสายศรีราชา-ชากค้อ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ถูกพาดพิงถึง ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ยุทธนา กองตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ศรีราชา หลังถูกลูกค้าโพสต์หมิ่นประมาทในเฟซบุ๊กทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ม.ค. 2561 ลูกค้าสาวประเภทสองและหญิงสาววัยรุ่น 4 คน กล่าวว่า เราทั้งหมด อยากจะมาชี้แจงในส่วนของพวกเราที่เป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการที่ร้านดังกล่าว ซึ่งพอเราทุกคนกินกันเสร็จแล้ว ก็เรียกพนักงานมาเช็คบิล และเค้าก็บอกว่า โต๊ะตนกินน้ำจิ้มเหลือ จึงต้องปรับขีดละ 100 บาท ซึ่งตนก็แปลกใจ เพราะตนเป็นคนที่ชอบกินทะเลเผาอยู่เป็นประจำ ที่ร้านอื่นๆ จะไม่เคยเก็บเงินค่าน้ำจิ้มเลย เพราะว่าตนกินอาหารทะเลหมด เหลือแค่เพียงน้ำจิ้ม และที่สำคัญ ที่ร้านดังกล่าวมีน้ำจิ้มด้วยกันอยู่ 2 สูตร คือน้ำจิ้ม เกาหลี และน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งคนนึงก็ตกคนละ 2 ถ้วย และเค้าก็นำน้ำจิ้มทั้งหมดใส่ลงรวมกันและนำไปตาชั่ง ได้ 6 ขีด โต๊ะตนก็โดนปรับที่ 600 บาท และทีนี้ตนก็ได้นำเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน ว่ามันเกินไปไหม แค่น้ำจิ้มเหลือ ต้องโดนปรับ 600 บาท แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้คิดที่จะทำให้ร้านเสียชื่อเสียงหรือใดๆทั้งสิ้น แต่พอลงในเฟซบุ๊กเพียงไม่นาน ข่าวก็ได้กระจายออกไปอย่างกว้างขว้าง จนมีชาวโซเชียล มากมาย เข้ามาโจมตี กล่าวหาว่า พวกตนตะกละ

นอกจากนี้ก็อยากจะฝากถึงเจ้าของร้าน ว่า ในส่วนของอาหารที่ตนตักมา ทุกคนในโต๊ะกินหมด ไม่ได้กินเหลือ ซึ่งก็จะเหลือแค่น้ำจิ้ม แต่ทำไมถึงต้องปรับเยอะขนาดนี้ และถ้าหากตนกินอาหารทะเลเหลือเยอะ ตนก็พร้อมที่จะโดนปรับ ตามกติกาที่ร้านตั้งไว้

ในขณะเดียวกันพวกตนก็ได้เดินทางไปเข้าพบกับ ร.ต.อ.ยุทธนา กองตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ศรีราชา แล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการแนะนำไปพวกเดินทางไปร้องเรียน ที่ สคบ.ชลบุรี และยืนยันจะเดินหน้าสู้กันต่อไป เพราะพวกตนก็จะไม่ยอม

คนโพสต์ลงเฟสบุ๊ก กล่าวต่อว่า ตนขอความเห็นใจ สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องหรือตนสายปลายเหตุ และเข้ามาโพสต์ด่าตนในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนไม่ได้มีเจตนาที่จะทำลายเสียร้านแต่อย่างใด ตนก็โพสต์แค่ของตนไม่ได้พาดพิงถึงใคร ซึ่งคนที่รู้จักตนจริง ตนถึงจะบอกว่าร้านอยู่ตรงไหน ซึ่งอย่าด่าตนเลย เพราะว่าตนก็คิดว่าเป็นสิทธิของลูกค้าทุกคน ก็มีสิทธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้