สนช.เตรียมลงมติ กม.ส.ส. 25 ม.ค.นี้ เผยเสียงส่วนใหญ่หนุนให้ขยาย 3 เดือน
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีนายวิทยา ผิวผ่อง ประธานกมธ.วิสามัญฯทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาทบทวนร่างพ.ร.บ.เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้วาระ 2-3 ในวันที่ 25 ม.ค. ภายหลังการประชุมนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ กมธ.วิสามัญฯกล่าวว่า ที่ประชุมได้ทบทวนเนื้อหาร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.เป็นครั้งสุดท้าย โดยมีมติยืนยันตามเนื้อหาเดิมที่กมธ.เคยมีมติไปทุกอย่าง ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขใดๆ โดยยังยืนยันหลักการตามมาตรา 2 เรื่องการขยายระยะเวลาบังคับใช้กฎหมายให้มีผลเมื่อพ้นจาก 90 วัน นับจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่มีการแก้ไขหลักการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไปเป็น 120 วันตามที่มีกระแสข่าว โดยให้ผู้ที่เสนอขยายเวลาเป็น 120 วันไปสงวนคำแปรญัตติต่อที่ประชุมสนช.ในวันที่ 25 ม.ค. ทั้งนี้ประเด็นที่ประชุมคาดว่า จะมีการถกเถียงกันอย่างมากมี 3 เรื่องคือ 1.มาตรา 2 เรื่องการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเป็น 90 วัน 2.มาตรา35 เรื่องการตัดสิทธิการเข้าสมัครรับราชการสังกัดรัฐสภา เป็นเวลา 2 ปี ต่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งส.ส. 3.การให้แสดงมหรสพระหว่างการหาเสียงได้ อย่างไรก็ตามยังเชื่อมั่นว่า ที่ประชุมสนช.จะให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวในวันที่ 25 ม.ค.
ด้านนายทวีศักดิ์ สูกวาทิน โฆษกกมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมกำหนดตัวบุคคลทำหน้าที่นำเสนอเหตุผลการแก้ไขกฎหมายในแต่ละมาตรา โดยสรุปจะมีแก้ไขทั้งสิ้น 30 มาตรา โดยการเสนอแก้ไขมาตรา2 ที่ให้ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วันนั้น ยืนยันว่ามีเหตุผลจริงๆ เป็นเรื่องการปฏิรูปการเมือง แต่ขอติงการนำเสนอข่าวของสื่อที่หลงประเด็นไปตามพรรคการเมือง ที่จ้องโจมตีประเด็นการยื้อเวลาอย่างเดียว แต่ไม่มองเรื่องความพยายามปฏิรูปพรรคการเมืองให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรคอย่างแท้จริง ในการเข้าไปเป็นสมาชิกพรรค กำหนดตัวผู้สมัครอย่างแท้จริง ตามหลักการไพรมารีโหวต ที่พรรคการเมืองเขาไม่อยากปฏิรูปเปลี่ยนแปลงอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเห็นของสมาชิกสนช.เรื่องการแก้ไขมาตรา 2 ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายให้มีพ้นหลังจากพ้น 90 วัน นับจากประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วัน เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นเพื่อให้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวทำกิจกรรมทางการเมือง เช่น การเปิดประชุมพรรค การทำไพรมารีโหวต การส่งผู้สมัครเลือกตั้ง ได้ทันตามกรอบเวลา โดยเห็นว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ส่วนเสนอให้มีการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 120 วัน ตามที่มีผู้สงวนคำแปรญัตตินั้น เริ่มมีสมาชิกสนช.เห็นคล้อยกับแนวทางนี้มากขึ้น เพราะเกรงว่า ระยะเวลา 90 วันที่ขยายไปอาจไม่เพียงพอ เพราะขั้นตอนระบบไพรมารีโหวตนั้น พรรคการเมืองต้องใช้เวลาดำเนินการมากในการคัดเลือกผู้สมัครในพื้นที่ จึงควรเผื่อเวลาให้มีมากขึ้นจาก 90 วัน อย่างไรก็ตามเสียงสนช.ที่สนับสนุนให้ขยายเวลา 90 วัน ยังมีสัดส่วนมากกว่าในระดับหนึ่ง เพราะล่าสุดท่าทีของคสช.ยังยืนยันให้ขยายเวลาเพียง 90 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนโจมตีมากไปกว่านี้