‘ผู้ประกันตน’ ได้เงินช่วยเหลือทางการแพทย์เหมือนบัตรทอง

‘ผู้ประกันตน’ ได้เงินช่วยเหลือทางการแพทย์เหมือนบัตรทอง

สปส.คลอดเงินช่วยเหลือทางการแพทย์ ผู้ประกันตนเหมือนบัตรทอง เหลือขรก. ไม่ได้

จากปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย กรณีการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดข้อพิพากจนหลายครั้งเป็นคดีความตามที่มีข่าวมาตลอด แต่หลายครั้งก็มีการเจรจาจนสามารถตกลงกันได้ผ่านการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข(สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) มีกองทุนช่วยเหลือเบื้องต้น แบ่งเป็นเสียชีวิต ทุพพลภาพ บาดเจ็บจากการบริการสาธารณสุข ซึ่งจะครอบคลุมให้แก่ผู้ป่วยในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือผู้ป่วยบัตรทอง 48 ล้านคน ยกเว้นสิทธิประกันสังคมและสิทธิสวัสดิการข้าราชการ แต่ล่าสุดปรากฎว่า สำนักงานประกันสังคม(สปส.) ได้ให้สิทธิผู้ประกันตนกว่า 13 ล้านคน เหลือเพียงสิทธิข้าราชการกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ยังไม่มี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มกราคม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) กล่าวว่า แม้ปัญหาคดีการฟ้องแพทย์จะเพิ่มขึ้น แต่ประเทศไทยยังไม่ได้เพิ่มมาก เนื่องจากมองว่ามีมาตรา 41 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งมีมาตรการในการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยและญาติ โดยเพดานสูงสุดอยู่ที่ 400,000 บาทในกรณีเสียชีวิต ซึ่งเงินนี้จะได้รับอย่างรวดเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ป่วยและญาติได้ ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ติดใจที่จะนำคดีขึ้นสู่ศาล แต่ปัญหาที่ผ่านมาคือ กลับไม่มีการช่วยเหลือลักษณะนี้ในสิทธิประกันสังคมและสิทธิข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสนช. ได้ผลักดันในการแก้พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2558 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2558 มีผลบังคับใช้ใน 120 วัน โดยแก้ไขในมาตรา 53 ให้เป็นค่าใช้จ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนในกรณีที่ผู้ประกันตนได้รับความเสียหาย จากการรับบริการทางการแพทย์ เมื่อสํานักงานได้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนไปแล้ว ให้สํานักงานมีสิทธิไล่เบี้ยแก่ผู้กระทําผิดได้

“ผ่านมาเกือบ 3 ปี ในที่สุด นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการการแพทย์ ประกันสังคม ได้ลงนามในประกาศหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ โดยใช้อัตราเดียวกับมาตรา 41ของพ.ร.บ.บัตรทอง ซึ่งต้องดีใจกับผู้ประกันตน 13 ล้านคนที่จะได้สิทธิเท่าเทียมกับผู้ป่วยบัตรทองเสียที ดังนั้น ขณะนี้จึงเหลือเพียงสิทธิข้าราชการที่มีเพียง 5 ล้านคนเท่านั้นที่ยังไม่มีสิทธิตรงนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้มีพ.ร.บ.ของตนเอง แต่เป็นเพียงพระราชกฤษฎีกา ซึ่งดูแลเงินกองทุนถึง 6 หมื่นล้านบาท จริงๆก็ควรต้องมีสิทธิตรงนี้ด้วย เพราะการออกสิทธิดังกล่าวไม่ได้ยาก และไม่ได้ใช้เงินมากมาย เพราะขนาดบัตรทองใช้เงินตามมาตรา 41 เพียง 200 ล้านบาท ประกันสังคมคนน้อยกว่าก็น่าจะใช้เงินไม่เยอะ ขณะที่ข้าราชการคนน้อยกว่าอีกก็น่าจะน้อยลงไปด้วย ซึ่งทางสนช.จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลเรื่องนี้ และเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไป” นพ.เจตน์ กล่าว

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวว่า คณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดสปส.) เห็นชอบกรรมการการแพทย์ในเรื่องหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ ซึ่ง นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการการแพทย์ได้ลงนามเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 แต่เนื่องจากพ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2558 ได้บังคับใช้ไปตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2558 ผู้ป่วยประกันสังคมที่ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ในช่วงเวลาดังกล่าว และยังไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยหรือยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นใดๆ จะสามารถใช้สิทธิตามประกาศนี้ได้ เรียกว่ามีผลย้อนหลังให้นั่นเอง โดยหลักเกณฑ์จะใช้ยึดตามมาตรา 41ของบัตรทอง เพื่อไม่ให้เกิดความลักลั่น โดยอัตราการช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีเสียชีวิตตั้งแต่ 240,000-400,000 บาท สูญเสียอวัยวะจ่ายเงินช่วยเหลือตั้งแต่ 100,000-240,000 บาท และบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่องไม่เกิน 100,000 บาท