ตร.เร่งลงพื้นที่หาหลักฐานตามคำให้การ 'ณิชา'

ตร.เร่งลงพื้นที่หาหลักฐานตามคำให้การ 'ณิชา'

ตร.เร่งลงพื้นที่หาหลักฐานตามคำให้การ "ณิชา" สอบ "เจรติ" ผู้ต้องหาเอี่ยวฉกบัตรประชาชนเปิดบัญชี จ่อเเถลงข่าวพรุ่งนี้

กรณีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ถูกคนร้ายเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี ทำให้น้องณิชาเป็นผู้รับเคราะห์เป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง ต้องติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวนั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเชิญตัว น.ส.ปวีณา สิงห์วิบูลย์ อายุ 31 ปีเข้าปากคำหลังพบว่าเป็นผู้ที่นำบัตรประชาชนของน.ส.ณิชาไปเปิดบัญชีธนาคารต่าง ๆ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 15 มกราคม พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำน.ส.ณิชาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 14 มกราคม ได้สอบสวนเรื่องเงิน 6 ล้านบาทที่ปรากฏในบัญชี การทำบัตรประชาชนใหม่หลายครั้ง รวมไปถึงกระแสข่าวการสนทนาพูดคุยกันระหว่าง น.ส.ณิชา กับ น.ส.ปวีณา และอีกหลายประเด็น โดยน.ส.ณิชา ได้ตอบคำถามในประเด็นดังกล่าวจนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่รายละเอียดของคำให้การนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ ซึ่งอาจมีผลต่อรูปคดีได้ เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนในคดีนี้ลงไปสืบหาข้อเท็จจริงตามคำให้การของน.ส.ณิชาแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางน.ส.ปวีณานั้น หลังถูกแจ้งข้อหาตำรวจได้นำตัวไปขยายผลต่อทันที โดยวันนี้จะมีการเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.เจรติ หรือ แอน สายสิญจน์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำบัตรประชาชน น.ส.ณิชา ไปให้ น.ส.ปวีณาเปิดบัญชี ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำโพธิ์แก้ว จ.นครปฐมในข้อหาฉ้อโกง โดยตำรวจจะทำการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินว่ามีการโอนถ่ายเงินไปที่บัญชีของบุคคลอื่นอีกหรือไม่ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปแถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในวันที่ 16 มกราคมต่อไป

รายงานการสอบสวนแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (14 มกราคม) เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำน.ส.ณิชาในหลายประเด็นเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย โดยประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ ทางน.ส.ณิชาได้ชี้แจงอย่างครบถ้วน ซึ่งการสอบปากคำเมื่อวานนี้มีพนักงานสอบสวนจากสน.ต่าง ๆ จำนวนหลายนายซึ่งมาจากท้องที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเข้าบัญชีที่น.ส.ณิชาให้การว่าถูกแอบนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี ทำให้การสอบสวนกินเวลายาวนานตั้งแต่ 15.00 น.ถึงเวลา 03.00 น.ของอีกวัน รวมเวลา 12 ชั่วโมง โดยไม่เพียงแต่สอบปากคำน.ส.ณิชาเท่านั้น เจ้าหน้าที่ยังสอบปากคำน้องชายของน.ส.ณิชาอีกด้วย เพื่อให้ครบถ้วนในทุกประเด็นที่เจ้าหน้าที่สงสัย โดยหลังจากสอบปากคำน.ส.ณิชาแล้วเสร็จ ในวันนี้ก็จะลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลพยานหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าตรงกับคำให้การของน.ส.ณิชามากน้อยเพียงใด รวมถึงการขยายผลในการสืบสวนเชิงลึกเพื่อสรุปเป็นข้อมูลเตรียมนำไปแถลงข่าวต่อไป

แหล่งข่าวจากชุดสอบสวนให้การว่า จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นพบว่าบัตรประชาชนของน.ส.ณิชาที่หายไปในเดือนกันยายน ปี 2560 นั้น ถูกนำไปแอบเปิดบัญชีธนาคารต่าง ๆ รวม 9 บัญชีทั้งหมด ตรงกับคำให้การของน.ส.ณิชา ที่ให้การว่า บัตรประชาชนที่หายไปนั้น เป็นรูปที่ถ่ายไว้ตอน ม.4 กำลังมัดผมจุกเกล้าบนศีรษะ และหายไปในเดือนกันยายน 2560 ก่อนถูกนำบัตรดังกล่าวไปเปิดบัญชีทั้งหมด

ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารแห่งหนึ่งเผยข้อมูลว่า ปกติแล้วการเปิดบัญชีนั้น ทางพนักงานธนาคารจะมีการตรวจสอบบัตรประชาชนเข้าเครื่องสแกนชิพเพื่อตรวจสอบว่าบัตรประชาชนใบดังกล่าว มีการทำบัตรใหม่หรือหมดอายุแล้วหรือไม่ ปัจจุบันทางธนาคารมีคำสั่งให้พนักงานที่รับเปิดบัญชีมีความรอบคอบระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยพนักงานธนาคารจะต้องมีการสอบถามพูดคุยกับผู้มาเปิดบัญชี เพื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งที่อยู่ ที่ทำงาน ตำแหน่ง เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้มาเปิดบัญชีเป็นเจ้าของบัตรประชาชนจริง ๆ หากมีการตอบอึกอักหรือมีลักษณะการพูดจาน่าสงสัย พนักงานธนาคารมีสิทธิ์ปฏิเสธไม่อนุญาตเปิดบัญชีได้ โดยตอนนี้ต่างกวดขันให้ตรวจสอบรูปจากบัตรประชาชนกับใบหน้าของผู้ขอเปิดบัญชีให้ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดกรณีการลอบนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีดังที่เป็นข่าวอีก

ด้านพล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากได้รับแจ้งจากธนาคารแห่งหนึ่งว่าพบชายชาวต่างชาติผิวสี มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าน่าจะอยู่ในเครือข่ายแก็งคอลเซ็นเตอร์กำลังทำธุรกรรมทางการเงิน ที่บริเวณย่านรัชดา จึงวางแผนและนำกำลังสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไปตรวจสอบ จนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบทราบชื่อว่าคือนายไซม่อน และจากการตรวจค้นห้องพัก พบของกลางเป็นเสือผ้า แว่นตา และหมวก ที่นายไซม่อน สวมใส่ในวันก่อเหตุ

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวางได้ควบคุมนำตัวนายไซม่อน ไปขยายผลการจับกุมต่อ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลว่านายไซม่อน มีหมายจับและเป็นผู้ร่วมขบวนการกับแก็งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมทั้งจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป