แพทย์ดูแลใกล้ชิด ผู้บาดเจ็บเหตุเรือสปีดโบ๊ทไฟไหม้

แพทย์ดูแลใกล้ชิด ผู้บาดเจ็บเหตุเรือสปีดโบ๊ทไฟไหม้

แพทย์ดูแลใกล้ชิดนทท.บาดเจ็บ จากเหตุเรือสปีดโบ๊ทไฟไหม้ที่ จ.กระบี่ จนท.ลงตรวจสอบพบไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งลำ

จากกรณีเรือสปี๊ดโปทคิงโพไซดอน 959 ของบริษัท แอบเปิ้ลทริป จำกัด ประสบเหตุเครื่องยนต์ระเบิด และเกิดไฟลุกไหม้เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารซึ่งเป็นลูกเรือแ ละนักท่องเที่ยวชาวจีน และลูกเรือได้รับบาดเจ็บ รวม 16 ราย บาดเจ็บสาหัส 6 รายเหตุเกิดที่บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพีเล ม.7 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 14 ม.ค.61 ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ภายหลังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ตำรวจสภ.เกาะพีพี ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ เจ้าท่าภูมิภาคสาขากระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ และอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ลงเรือเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุที่เกาะพีพี บริเวณหน้าถ้ำไวกิ้ง
เมื่อไปถึงพบว่า เรือได้ลอยไปติดโขดหินบริเวณข้างถ้ำในสภาพเรือเหลือเพียงส่วนของตัวเรือสภาพดำเพราะไฟไหม้ และมีเครื่องยนต์ติดอยู่ที่ท้ายเรือ 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ลงไปดำน้ำบันทึกภาพของเรือพบว่าเครื่องยังอยู่ที่ท้าย และมีร่องรอยไหม้ตลอดทั้งลำ

เจ้าหน้าที่ให้เรือมาลากซากเรือลำดังกล่าวไปตรวจที่ชายหาดเกาะพีพี แต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีคลื่นแรง และเรือเสียหายอย่างหนักเหลือเพียงตัวเรือที่เป็นไฟเบอร์กลาสกับเครื่องยนต์เท่านั้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการลากเรือ

ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์อินเตอร์เนชั่นแนล อ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยว ตม.กระบี่ เจ้าท่า และศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้ง 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่

โดยมี นายแพทย์สุนทร ฟองฟุ้ง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้นำเยี่ยม ซึ่งผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูภายใต้การดูแลของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด และงดเยี่ยม เนื่องจากอาการยังสาหัส

นายแพทย์สุนทร กล่าวว่า ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีอาการหนักจากการถูกไฟไหม้ไปเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย โดยผู้ป่วยมีอาการเสียน้ำมากจึงต้องให้น้ำเกลือในปริมาณมากกว่าปกติหลายเท่า เพื่อลดความดันของร่างกาย ส่วนการนอนรักษาในรพ.นั้นคงต้องใช้เวลารักษาประมาณ 3 สัปดาห์จึงจะสามารถออกไปรักษาตามปกติได้

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ได้มาเยี่ยมผู้บาดเจ็บซึ่งทราบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนี้จะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องหาแนวทางรับมือใน 2 มาตรการคือ 1.การเตรียมความพร้อมในการป้องกันเช่นการตรวจตราเรือเป็นต้น และ2.การรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นการเข้าช่วยเหลือ