จยย.ชนปิคอัพอีซูซุ ถูกลากไกลกว่า100ม. หนุ่ม21สาหัส

จยย.ชนปิคอัพอีซูซุ ถูกลากไกลกว่า100ม. หนุ่ม21สาหัส

จยย.วิ่งข้ามเลนชนประสานงาปิคอัพอีซูซุ ก่อนเบรคไม่อยู่ลากไปไกลเกือบ100เมตร ส่งผลให้ผู้ขับขี่จยย.เจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 11 มกราคม 2561 ร.ต.อ.ภาณุพงศ์ ทัศญาณ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถยนต์ปิคอัพชนประสานงานกับรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนนิคมลำตะคอง ช่วงหลัก กม.ที่2-3 ใกล้เคียงทางแยกเข้าโกดัง ก.พาณิชย์ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องพร้อมเดินทางไปตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิคอัพ อีซูซุ สีบรอนซ์ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผล 7594 สระบุรี จอดหันหน้าเข้าตัวเมืองปากช่อง สภาพด้านหน้าของรถพังเสียหายยับเยิน โดยมีรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า MSX สีเขียว-ดำ แผ่นป้ายทะเบียน คาดว่าหลุดกระเด็นหายหลังเกิดเหตุ สภาพพังเสียหายติดอยู่บริเวณด้านหน้าของรถยนต์ปิคอัพ ใกล้เคียงพบเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยอยู่ระหว่างทำการปั๊มหัวใจ (CPR) ผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสันติชัย พลุกล้า อายุ21ปี ที่อยู่ตามหลักฐานระบุ เลขที่33หมู่2ต.บ้านแจ้ง อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เบื้องมีอาการหมดสติปลุกไม่ตื่น อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยต้องประสานงานขอทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลปากช่องนานา ร่วมให้การช่วยเหลือในจุดเกิดเหตุก่อนจะนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลปากช่องนานา

จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์ปิคอัพ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ระหว่างกำลังขับขี่รถยนต์เพื่อกลับบ้านในตัวเมืองปากช่อง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล จากนั้นเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆได้มีรถจักรยานยนต์ซึ่งขับสวนทางมาได้ข้ามเลนมาในฝั่งที่ตนขับอยู่จึงทำให้ชนเข้าอย่างจังจนถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งภายในรถทำงานทั้ง2ข้าง จากนั้นหลังจากที่เกิดการชนแล้วรถของตนเบรคไม่อยู่จึงทำให้รถไหลไปไกลเกือบ100เมตร โดยมีรถจักรยานยนต์ติดอยู่ด้านหน้า ส่วนคนขับ จยย. กระเด็นออกไปนอนหมดสติอยู่ห่างจากจุดที่รถหยุดประมาณ10เมตร

จากนั้นเมื่อ ร.ต.อ.ภาณุพงศ์ ทัศญาณ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หนองสาหร่าย พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียดพร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ ต่อผู้ขับขี่รถยนต์ เนื่องจากต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง พร้อมทั้งสอบปากคำโดยละเอียด และเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป