บริษัทส่งออกโอด เงินบาทแข็งค่า ทำรายได้หดเดือนละกว่า10ล้าน

บริษัทส่งออกโอด เงินบาทแข็งค่า ทำรายได้หดเดือนละกว่า10ล้าน

ผู้ประกอบการส่งออกรายใหญ่ เมืองกาญจน์ โอดเงินบาทแข็งค่า ทำบริษัทรายได้หดเดือนละกว่า10ล้านบาท แนะรัฐมุ่งหน้าคุมดัชนีเงินบาทให้ทรงตัว ระดับ 34-35 บาทต่อดอลล่าร์

นายประจักษ์ บัวซ้อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริเวอร์แคว อินเตอร์เนชั่นแนล อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด หมู่ 1 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากกระแสเรื่องขึ้นค่าแรงให้กับแรงงานนั้น ตนมีความเห็นว่าควรชะลอออกไปก่อน เพราะตอนนี้ภาคอุตสาหกรรมแบบโรงงานของเราต้องพึ่งพาการส่งออกเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากจากการแข็งค่าของเงินบาทที่แข็งค่าราวๆ 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน

ในสภาวะเช่นนี้ ทำให้รายได้ลดลงอย่างมาก จนไม่อยู่ในสภาวะของการดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดได้ซึ่งถ้าภาวะยังเป็นอย่างนี้ต่อไปแม้ไม่ปรับขึ้นค่าแรง แค่เรื่องเงินบาทแข็งค่าอย่างเดียว ก็เชื่อว่าภาคธุรกิจส่งออก คงต้องขาดทุนอย่างหนัก และคงตามมาด้วยการปิดกิจการ ซึ่งจะกระทบกับภาคเศรษฐกิจเป็นลูกโซ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ผลกระทบหลักคือเรื่องค่าเงินบาท ยกตัวอย่างง่ายๆว่า ในแต่ละเดือนบริษัทฯมีรายได้เป็นเงินสกุลUS Dollarเดือนละตกประมาณ5ล้าน ดอลล่า จากเดิมปีที่แล้วแลกเป็นเงินบาทได้ เหรียญละ35.5บาท ปีนี้เหลือ 32บาท และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดที่ตัวเลขเท่าไหร่

ส่วนต่างที่รายได้ของบริษัทลดลง เดือนละ10กว่าล้าน ปีหนึ่งอย่างน้อยๆก็100กว่าล้าน เราจะลดต้นทุนตรงไหน เพื่อมาชดเชยในส่วนที่หายไปจากตรงนี้ได้ การไปขึ้นราคาไม่สามารถทำได้อยู่แล้วเพราะราคาตลาดโลก จากผู้ส่งออกรายอื่นไม่สามารถขยับได้ และถ้าเราเลือกลดราคาวัตถุดิบ แน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นวงกว้าง ซึ่งเราจะหลีกเลี่ยงวิธีการที่จะกระทบกับพี่น้องเกษตรกรให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่มั่นใจว่าจะหลีกเลี่ยงได้หรือไม่อย่างไร

ส่วนเรื่องผลกระทบจากการขึ้นค่าแรง จริงๆเราไม่ได้คัดค้านการขึ้นค่าแรงเพียงแต่เราอยากให้พิจารณาการขึ้น อย่าให้กระทบหรือเป็นการซ้ำเติมเราเพิ่มเติมจากปัญหาค่าเงินบาทที่รุนแรงอยู่แล้วเท่านั้นเราแค่อยากจะฝากภาครัฐว่า ให้ช่วยเร่งแก้ปัญหาค่าเงินบาท และอย่าซ้ำเติมด้วยการปรับค่าแรงที่สูง เพราะ2เรื่องดังกล่าว กำลังส่งผลกระทบที่รุนแรง เกินกว่าที่ภาคอุตสาหกรรมจะแบกรับไว้ไหวบางทีเราอาจจำเป็นต้องถ่ายภาระออกสู่ภาคอื่นคือเกษตรและแรงงานซึ่งนั่นหมายความว่าผลกระทบจะแผ่ขยายเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน ค่าเงินบาทควรอยู่ที่34-35บาทต่อดอลล่าสหรัฐแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่เท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่ากับ การที่ค่าเงินบาทไม่ผันผวนเพราะถ้าค่าเงินบาทไม่ผันผวนค่อนข้างนิ่งเราก็จะเจรจากำหนดราคาขายได้ง่ายขึ้น