กังวลข่าวจีนเลิกซื้อบอนด์ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพุธ (10ม.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อข่าวที่ว่า จีนอาจเลิกซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 16.67 จุดหรือ 0.07 % ปิดที่ 25,369.13 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 3.06 จุดหรือ 0.11% ปิดที่ 2,748.23 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลบ 10.01 จุดหรือ 0.14 % ปิดที่ 7,153.57 จุด
การร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ในวันนี้ เป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทนับตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากก่อนหน้านี้
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีน ซึ่งมีหน้าที่พิจารณาการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน เสนอให้รัฐบาลจีนชะลอ หรือยุติการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เริ่มมีความน่าดึงดูดลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ นอกจากนี้ ความตึงเครียดของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้จีนลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐ
ทั้งนี้ จีน ถือเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก และมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศสูงที่สุดในโลก
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 2.593% หลังจากดีดตัวทะลุ 2.50% เมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดพันธบัตรสหรัฐ
นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นกำลังสร้างความวิตกต่อนักลงทุน
นายบิล กรอส ซึ่งเป็นผู้จัดการพอร์ทโฟลิโอของเจนัส แคปิตอล แมเนจเมนท์ และเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารแปซิฟิก อินเวสท์เมนท์ แมเนจเมนท์ หรือ พิมโก้ กองทุนรวมตราสารหนี้ภาครัฐรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรเข้าสู่ภาวะหมีแล้ว หลังจากปรับตัวสดใสเป็นเวลานานกว่า 25 ปี