ญาติ3โจ๋ขู่ฆ่าพยาน! คดีรุมข่มขืนดญ.14ถึงเช้า ตร.นิ่งไม่สนใจ

ญาติ3โจ๋ขู่ฆ่าพยาน! คดีรุมข่มขืนดญ.14ถึงเช้า ตร.นิ่งไม่สนใจ

สุดอนาถใจ! ญาติ3โจ๋ขู่ฆ่าคนเป็นพยาน หลังรุมข่มขืนสาว14ถึงเช้า เหยื่อกรีดแขนจะฆ่าตัวตาย ทนชอกช้ำไม่ไหว ขณะตร.ให้ญาติเหยื่อตามจับคู่กรณีส่งโรงพัก แล้วปล่อยตัวผู้ต้องหาไม่ดำเนินคดีให้หนีไปลาว

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ม.ค.61 นายสุดใจ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี อยู่ ต.เชียงกลม อ.ปากชม จ.เลย พร้อมด้วยญาติร้องเรียนสื่อว่า ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 31 ธ.ค.61 ที่ผ่านมาหลานสาววัย14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากชม จ.เลย ถูกกลุ่มวัยรุ่นอายุ 17-18 ปี จำนวน 3 คน หลอกให้กินเหล้าเบียร์จนหมดสติไม่รู้ตัว จากนั้นถูกนำตัวเข้าห้องในบ้านหลังหนึ่งของ 1 ในกลุ่มวัยรุ่น หมู่ 8 ต.เชียงกลม อ.ปากชม ผลัดกันข่มขืนจนถึงเช้า ญาติเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เชียงกลม แต่ไม่ยอมรับแจ้งความ และไม่จับกุมกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อและร้องประสานไปยังมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรีเรื่องคดีความ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของเหยื่อ พบนายสุดใจ ผู้เป็นลุงและญาติจำนวนหนึ่งเล่าว่า หลานกำลังเรียนอยู่ แม่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 10 ปี ส่วนพ่อมีอาชีพขายลอตเตอรี่ไปมีเมียใหม่ ทิ้งหลานให้อยู่กับตาและยาย อายุ 77 ปี ตั้งแต่เด็ก จนเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.60 หลานได้มาขออนุญาตไปร่วมงานปีใหม่กับเพื่อนๆ ตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนดึกก็ยังไม่กลับ จนตอนเช้าวันที่ 1 ม.ค.61 หลานสาวได้เดินร้องไห้กลับบ้านสภาพอิดโรย มาเล่าให้ฟังว่าถูกเพื่อนรุ่นพี่เป็นชาย 3 คน ที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียง 1 เดือนกว่า มาร่วมกันฉลองปีใหม่เพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกันอีก 11 คน ที่บ้านของ 1 ในกลุ่มวัยรุ่น ส่งเบียร์ให้กิน 1 แก้วจนตัวเองรู้สึกเมา จนตี 2 กว่าๆ รู้สึกตัว เห็นชายทั้ง 3 คน กำลังข่มขืน จึงได้ขอร้องยกมือไหว้ขออย่าทำตนเองเลย แต่ทั้ง 3 คนไม่ยอมฟังผลัดกันข่มขืนจนถึงเช้าแล้วปล่อยกลับบ้าน

เมื่อได้รับฟังจากหลานสาว พร้อมด้วยญาติ เข้าแจ้งความกับตำรวจ ยศ ร.ต.อ. เป็นพงส.สภ.เชียงกลม แต่ทาง พงส.ให้พาหลานสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ปากชม ผลเบื้องต้นพบว่าอวัยวะเพศฉีกขาดจากการถูกละเมิด จึงได้นำเอาผลการตรวจไปพบ พงส.เจ้าของคดี แต่ถูก ตร.เจ้าของคดีบอกว่าให้ไปจับตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ข่มขืนมา จนสามารถเอาตัวมาได้ 2 คน ชื่อนายเอ และ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มามอบให้กับตำรวจ แต่ทั้งสองปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำการข่มขืน ส่วนผลการชันสูตรภายในเพื่อหาคราบอสุจิ ต้องใช้เวลา 3-4 เดือน จึงจะทราบผล ให้กลับบ้านไปก่อน ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่มีการจับกุมหรือแจ้งดำเนินคดี และปล่อยตัวให้กลับบ้านไป ทั้งที่หลานสาวชี้ตัวทั้ง 2 คนได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่มีการจับกุมตัว และ 1 ใน 3 ผู้ต้องหา ได้มีการหลบหนีข้ามไปยัง สปป.ลาว แล้ว

นายสุดใจ ยังกล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่ตำรวจพูดอย่างนี้ทำให้ตนเองพร้อมด้วยญาติ ไม่พอใจการทำงานของตำรวจเป็นอย่างมาก กลัวว่าหลานสาวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน เหตุเกิดคืนวันที่ 31 ธ.ค.60 จนมาถึงวันนี้ วันที่ 9 ม.ค.61 คดียังไม่มีความคืบหน้า และยังถูกญาติพี่น้องของกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุข่มขู่ใครเป็นพยานเรื่องนี้จะฆ่าให้ตาย จนหลานสาวเกิดอาการเครียดและหลอน เอามีดมากรีดแขนตัวเองจนคนในบ้านต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ให้ฆ่าตัวตาย จึงขอวิงวอนผ่านไปยังสื่อให้ความเป็นธรรมกับหลานสาว และฝากไปถึงมูลนิธิปวีณาช่วยเรื่องของคดี