"ตูน บอดี้สแลม" ที่สุดแห่งที่สุด 5 ประการ!!
"ท่าน ว.วชิรเมธี" เปิด 5 เหตุผลที่ "ตูน บอดี้สแลม" จึงคู่ควรต่อการเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2560 ของไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เฟซบุ๊กของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ได้โพสต์ข้อความว่า ทำไม "ตูน บอดี้สแลม" จึงคู่ควรต่อการเป็น บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2560 ของไทย โดยระบุว่า ทุกปีเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ นิตยสาร Time ซึ่งเป็นนิตยสารที่ทรงอิทธิพลที่สุดเล่มหนึ่งของโลก จะจัดอันดับ "บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี/ Person of the Year" เป็นประจำ ในเมืองไทยของเรา หากจะจัดอันดับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2560 คงไม่มีใครเกิน "ตูน บอดี้สแลม" อย่างแน่นอน ทำไมตูนจึงคู่ควรต่อการเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี คำตอบก็เพราะว่า ตูนได้ก่อเกิดสิ่งที่เป็น "ที่สุดแห่งที่สุด 5 ประการ" ดังนี้
1. "ที่สุดแห่งวิสัยทัศน์" ความฝันที่จะวิ่งจากใต้สุดสู่เหนือสุดของไทย ระยะทาง 2,191 ก.ม. เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยโรงพยาบาล 11 แห่ง เป็นเงิน 700 ล้านบาท คือการ “กล้าฝันเพื่อมนุษยชาติ” ที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่น่าเชื่อว่า ลำพังคนเล็กๆ สามัญชนคนหนึ่งจะทำได้ แต่ในที่สุดฝันนั้นก็เป็นจริงอย่างงดงาม
2. "ที่สุดแห่งโครงการ" "ก้าวคนละก้าว" เป็นโครงการที่สร้างแรงกระเพื่อมระดับประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนาน น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักโครงการนี้ คนไทยทั่วประเทศถูกดึงดูดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่พอผ่านมาครึ่งทาง "ก้าวคนละก้าว" ไม่ใช่โครงการของตูนอีกต่อไปแล้ว เพราะมันได้กลายเป็น "โครงการแสนรัก" ของคนไทยทั้งประเทศไปโดยอัตโนมัติ เหตุผลที่
3. "ที่สุดแห่งความเพียร" ไม่ว่าจะพบอุปสรรคหนักหนาสาหัสอย่างไร ระหว่างทาง ตูนไม่ยอมละปณิธานอันมั่นคงของตัวเอง งานนี้ตูนวางชีวิตลงเป็นเดิมพัน ตายเป็นตาย ขอให้ได้ทำอย่างที่ปักหมุดเอาไว้ให้ถึงที่สุด ตูนจึงเป็นตัวอย่างของ "พระมหาชนกบนท้องถนน" ตัวจริง
4. "ที่สุดแห่งการให้" ต่อให้วิ่งได้เงินกว่า 1 พันล้านบาท แต่ทุกบาททุกสตางค์ ก็ยกให้การกุศลทั้งหมด ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวเลยแม้แต่น้อย และการให้ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าเงิน ก็คือ การวิ่งของตูน เป็นการ "ให้ความสุข ความสดชื่น รื่นเย็นหัวใจ" ตลอดเส้นทาง
และสุดท้าย "ที่สุดแห่งหัวใจ" ตูนทำงานนี้ด้วยหัวใจที่ "เบิกบานในการรับใช้เพื่อมนุษย์" อย่างแท้จริง แม้โครงการจะประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่ง แต่ตูนก็ไม่หลงตัวเอง ไม่ยอมรับการเป็นฮีโร่ "ยิ่งสำเร็จกลับยิ่งถ่อมตน" การวิ่งของตูนจึงเป็น "การวิ่งโดยไม่มีผู้วิ่ง/Runnig without Runner" สิ่งที่ตูนทำ จะทำให้ตูนกลายเป็น "ศิลปินผู้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจคนไทยตลอดกาล" ถึงแม้ก้าวคนละก้าวจบลงแล้วในวันที่ 25 ธ.ค. 60 แต่ "แรงบันดาลใจ" จากโครงการนี้ จะยังคงเดินทางต่อไป และตูน ก็คงไม่หยุดการ "มีความสุขจากการทำให้คนอื่นมีความสุข" ไว้เพียงแค่นี้อย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊คพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
