‘วีระศักดิ์’ดันททท.อุ้มภารกิจด้านซัพพลาย

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในการประชุมเพื่อมอบนโยบายต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  ได้ตอกย้ำให้ ททท.ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการตลาดทำงาน (Demand) สอดประสานกับด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว (Supply) มากขึ้น โดยใช้ความรู้เชี่ยวชาญและชำนาญกำหนดทิศทางที่เหมาะสม 

“ที่ผ่านมา ททท. ทำได้ดีในด้านการพัฒนาตลาด มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยจำนวนมาก แต่ด้านซัพพลายยังทำงานตามไม่ทัน อีกทั้งยังขาดการประสานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม ซึ่ง ททท.ต้องประสานใกล้ชิดเพื่อนำท่องเที่ยวเป็นกลไกเข้าไปถึงชุมชนได้อย่างเหมาะสมและไม่มีอุปสรรค”

ทั้งนี้ ททท.ต้องช่วยเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยวระดับชุมชน มีเคพีไอด้านอัตราการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) ที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ ต้องยอมรับว่าในระดับท้องถิ่นแต่ละแห่งอาจมีความสามารถในการรองรับตลาดมวลชนได้ไม่เท่ากัน ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียอัตลักษณ์ของชุมชน จึงควรมีผู้มีความเชี่ยวชาญกำหนดเงื่อนไขต่างๆ  เช่น การรองรับรถบัสที่เข้าไปในเมืองควรมีปริมาณกี่คันต่อวัน จำนวนที่รับกลุ่มนักท่องเที่ยวหรือปริมาณต่อกลุ่ม เป็นต้น

สำหรับความคืบหน้าในการผลักดันความพร้อมของชุมชน จะเสนอแนวคิดให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาลดภาษีป้ายให้กับร้านค้าตึกแถวที่มีคนในชุมชนเป็นเจ้าของ ให้เปิดห้องน้ำสาธารณะให้บริการนักท่องเที่ยว เป้าหมายเบื้องต้น ต้องการกระตุ้นให้เจ้าของกิจการระดับชาวบ้านได้รับประโยชน์ก่อน เพราะเชื่อว่าหากนักท่องเที่ยวเข้า-ออกเพื่อเข้าห้องน้ำ ประโยชน์ที่ตามมาคือมีการสัญจรเข้าออก สามารถเปิดพื้นที่รับฝากขายสินค้าอื่นๆ ได้ประโยชน์การใช้พื้นที่เพิ่มเติม และเมื่อเห็นเจ้าของห้องแถวต่างๆ ได้รับอานิสงส์ทางตรงและทางอ้อม เชื่อว่าจะชักจูงใจให้ร้านค้าสะดวกซื้อที่เป็นเชนต่างๆ เข้ามาร่วมสร้างห้องน้ำบริการภายในร้าน เพื่อสร้างความสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

“ร้านสะดวกซื้อที่ต่างประเทศ มีห้องน้ำให้บริการเป็นเรื่องปกติแล้ว ถือว่าเป็นจุดขายและบริการตอบแทนลูกค้า แต่ในไทยยังไม่แพร่หลาย คาดว่าหากมีการส่งเสริมเป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นว่าชาวบ้านได้ประโยชน์จริง จะดึงดูดให้ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อหันมาลงทุนสร้างห้องน้ำเพิ่มเติมเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้บริการด้วย”

นอกจากนั้นร่วมมือกับ ไลน์ ไทยแลนด์ เพื่อสร้างแอคเคาท์Tourism1, Tourism2, Tourism3เพื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้สื่อสารปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ให้คำแนะนำในแหล่งที่ต้องการ “ซ่อมแซม” ความเสื่อมโทรมและอุปสรรคต่างๆ,ให้คำแนะนำในการ “สร้าง” สินค้าหรือพัฒนาการท่องเที่ยวใหม่ๆ  สุดท้ายเป็นช่องทางให้ผู้ประกอบการที่ต้องการรับโปรแกรมอบรมสัมมนาเพื่อสร้างบุคลากร หรือหน่วยงานที่มีโปรแกรมฝึกอบรม มาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลของตัวเอง

ด้านมาตรการภาษีขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงไหน ทั้งนี้ ททท.เป็นผู้กำหนดเรื่องโซนของพื้นที่ที่ได้รับยกเว้นภาษีนั้น เชื่อว่าจะทำให้เกิดความเข้าถึง เพราะแม้ว่าจะยกเว้นเมืองหลัก แต่จะลงรายละเอียดเพื่อไม่ให้กระทบกับพื้นที่แฝงในแหล่งหลัก เช่น ในสุราษฎร์ธานีก็อาจจะประกาศให้ได้รับสิทธิ์เช่นกัน แต่ยกเว้น เกาะสมุย