นายอำเภอบางละมุง นำกำลังบุกจับบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่เมืองพัทยา เช่าตึกขายโจ๋งครึ่ม
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (12 ธ.ค.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน สนธิกำลังร่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และกำลังทหารจาก มทบ.14 เข้าตรวจสอบที่อาคารพานิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 118/12 ซอยเทพประสิทธิ์ 7 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่าย และเก็บไว้ซึ่งสินค้าต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ศุลกากร จำพวกบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาที่หลีกเลี่ยงภาษีเป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารขนาด 2 คูหา โดยจากการนำกำลังเข้าตรวจ สอบภายในพบ นายบวงวงศ์ เย็นประสิทธิ์ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ภายในเพียงลำพัง ตรวจค้นพบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยา และอุปกรณ์ที่นำมาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจนับพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าหลายขนาด พร้อมหัวสูบรวมจำนวน 37 เครื่อง และน้ำยาชนิดต่างๆรวม 542 ขวด จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวน นายบวรวงศ์ ให้การว่าใช้เงินสะสมส่วนตัวซื้อบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์มาจากพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อหวังจะมาทำอาชีพหากิน จากนั้นจึงมาเช่าอาคารดังกล่าวได้ประมาณ 2 เดือนในราคาเดือนละ 10,000 บาท เพื่อนำสินค้ามาเปิดจำหน่ายให้กับลูกค้าที่นิยมสูบที่ร้านเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้มีการโฆษณาตามโลกโซเชียลหรือนำไปวางจำหน่ายตามตลาดนัดแต่อย่างใด ซึ่งแต่ละวันจะมีลูกค้าขาจรหรือลูกค้าประจำที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งส่วนมากจะขายสินค้าได้จะเป็นพวกน้ำยาบุหรี่รสต่างๆเฉลี่ยวันละ 10-20 ขวด และตัวบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 1-2 เครื่อง ซึ่งทำให้มีรายได้ประมาณวันละ 3-4 พันบาท สำหรับสินค้าและการเปิดร้านจำหน่ายนี้ทำเพียงลำพังคนเดียว กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่าสืบข้อมูลร่วมกับหลายหน่วยงานมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันมีการระบาดเรื่องการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาซึ่งมีความผิดในพื้นที่เป็นจำนวนมาก กระทั่งมาพบแหล่งดังกล่าวซึ่งมีของกลางเป็นจำนวนมากจึงนำกำลังบุกเข้าจับกุม โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านำมาจำหน่ายให้กับเยาวชนซึ่งถือว่าเป็นกฎหมาย เบื้องต้นแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การว่าทำงานเพียงลำพังแต่ก็คงยังไม่ปักใจเชื่อจะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวสืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการต่อไป ขณะที่การจับกุมครั้งนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกจับบุหรี่ไฟฟ้าไปเมื่อเร็วๆนี้ เพราะปัญหาทั้งบุหรี่ไฟฟ้า ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆเป็นเรื่องที่รัฐให้ความสำคัญและกวดขันจับกุมมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว