จี้ 'จักรทิพย์' สอบ2บิ๊กตร. แฉพฤติกรรมเอี่ยวคดีเงินหวย30ล้าน

จี้ 'จักรทิพย์' สอบ2บิ๊กตร. แฉพฤติกรรมเอี่ยวคดีเงินหวย30ล้าน

"ลุงจรูญ" บุกสตช. จี้ "จักรทิพย์" สอบ2บิ๊กตร.เมืองกาญจน์ แฉพฤติกรรมเอี่ยวคดีเงินหวย30ล้าน โวยถูกเรียกไปคุยให้ยอมรับว่าเก็บสลากฯได้

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่12 ธันวาคม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ผู้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 ธ.ค.2560 ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ได้เงินรางวัล 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงิน แต่ต่อมา นายปรีชา ใคร่ครวญ ข้าราชการครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน จ.กาญจนบุรี ออกมากล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของสลาก มีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับนายตำรวจระดับสูง 2 นาย ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน กรณีเรียก ร.ต.ท.จรูญ ไปพบที่บ้านพักเพื่อเจรจาให้ยอมตกลงระงับข้อพิพาท รวมทั้งกรณีที่มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคารโดยไม่ถูกต้อง และมีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะชี้นำการสอบสวน

โดยมี พ.ต.อ.ยสวินท์ หรรษมนต์ รองผบก.ส.3 ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นผู้รับหนังสือแทน นายษิทรา กล่าวว่า มีนายตำรวจ 2 นาย เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ รายแรกมีการไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในลักษณะบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหา ร.ต.ท.จรูญ ว่า จำสถานที่ เวลา คนขายไม่ได้ ทั้งที่ตนเองก็มีสำนวนการสอบสวนอยู่ในมือ

นอกจากนี้มีการเรียกร.ต.ท.จรูญ ไปพบที่บ้านพักซึ่งเป็นที่มิดชิดเพื่อเจรจาพูดคุยเกี่ยวกับคดีอาญา ให้ยอมรับผิด ซึ่งกรณีนี้เป็นคดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ มีการพูดจาในทำนองว่าหากยอมรับผิด ร.ต.ท.จรูญ จะได้รับส่วนแบ่งอย่างไร หากไม่ยอมจะได้รับโทษอย่างไร ตนมองว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่นายตำรวจระดับสูงลงมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มีการให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องดำเนินคดีแน่นอน ฝ่ายนี้กระทำผิดแน่นอน โดยไม่มีการรับฟังพยานหลักฐานจากฝ่ายตนก่อน

ทั้งนี้ ตนได้นำพยานหลักฐานเป็นเทปบันทึกคำให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจคนดังกล่าวที่ไปออกรายโทรทัศน์ 3 รายการ มีการให้สัมภาษณ์ที่สับเปลี่ยนไปมา-มา ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง มอบให้กับ ผบ.ตร .ด้วย

“ผมคิดว่าการกระทำของตำรวจนายดังกล่าวไม่เหมาะสม มีการชี้นำการสอบสวน ว่าเรื่องนี้ต้องขึ้นศาลแน่นอนทั้งที่ร้อยเวรยังไม่เรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา จะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง แต่หัวหน้าตำรวจบอกไปก่อนแล้วว่าจะต้องขึ้นศาล อย่างนี้ ร้อยเวรก็ทำงานลำบาก เท่ากับว่าต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหา และก็ฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ไปตามที่นายตำรวจระดับสูงกล่าวถึง” นายษิทรา กล่าว

นายษิทรา กล่าวว่า อีกราย คือ นายตำรวจที่ทำหนังสือไปอายัดเงินในบัญชีธนาคาร ซึ่งไม่ชอบด้วยการสอบสวน เพราะการอายัดบัญชีต้องมีการสอบสวนให้ครบถ้วนกระบวนความเสียก่อนว่าบุคคลที่ถูกอายัดบัญชีเป็นผู้กระทำผิดจริง เป็นการอายัดบัญชีโดยไม่เปิดโอกาสให้คู่กรณีได้แก้ต่าง

ด้าน ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า การเรียกไปพูดคุยกับนายตำรวจระดับสูงคนดังกล่าว ไม่ใช่ลักษณะของการข่มขู่ให้ยอมรับผิด แต่เป็นการพูดในทำนองว่าหากตนไม่ยอมรับจะต้องขึ้นศาล ต้องติดคุกติดตาราง นายตำรวจคนดังกล่าวพยายามให้ตนยอมรับว่าเก็บสลากได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับแม่ค้าขายสลาก ตนบอกตลอดว่าไม่สามารถจำใบหน้าได้ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ เวลา ตนจำได้ทั้งหมด ซึ่งตนยืนยันว่าตนซื้อสลากดังกล่าวมาจริงๆ ตนยืนยันข้อเท็จจริงตรงนี้มาโดยตลอด จึงอยากให้ ผบ.ตร. ให้ความเป็นธรรมกับตน ทำความจริงให้ปรากฏ