ตลท.เผยเดือนพ.ย.ต่างชาติขายสุทธิ1.8หมื่นล.

ตลท.เผยเดือนพ.ย.ต่างชาติขายสุทธิ1.8หมื่นล.

"ตลาดหลักทรัพย์" เผย เดือนพ.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 18,894 ล้านบาท ส่วนตั้งแต่ต้นปีขายสุทธิ 17,067 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีปิดที่ 1,697.39 จุด เพิ่มขึ้น 10%

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนพฤศจิกายน 2560 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เดือนพฤศจิกายน 2560 ปรับตัวลดลงจากเดือนตุลาคม 2560 สอดคล้องกับทิศทางของตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ในเอเชีย ซึ่งผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในหลายตลาด ทั้งอินโดนีเซีย ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ รวมถึงไทย ซึ่งเดือนพฤศจิกายนผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 18,894 ล้านบาท โดยภาพรวมตั้งแต่ต้นปี 2560 ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 17,067 ล้านบาท สวนทางกับผู้ลงทุนต่างประเทศในตลาดตราสารหนี้ของไทย ที่มีสถานะซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 2560

นายภากร กล่าวว่า ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย เดือนพฤศจิกายน 2560 ปิดที่ 1,697.39 จุด เพิ่มขึ้น 10.0% จากสิ้นปี 2559 แต่ลดลง 1.4% จากสิ้นเดือนก่อน มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ที่ 58,887 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตั้งแต่ต้นปีมา มี 4 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มบริการ กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงินตามลำดับ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคา (มาร์เก็ตแค็ป) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 17.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากสิ้นปี 2559 ส่วนอัตราส่วนกำไรต่อหุ้นคาดการ์ณล่วงหน้า (ฟอร์เวิร์ด พี/อี) ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ระดับ 17.05 อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ระดับ 2.89% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.53%

สำหรับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ทีเฟ็กซ์) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 352,292 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีหุ้นสามัญตัวหนึ่งเป็นสินทรัพย์อ้างอิง (ซิงเกิล สต็อก ฟิวเจอร์) ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ 318,525 สัญญา เพิ่มขึ้น 11.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน