ช็อก! รถแดงดอยสุเทพ ไหลลงเนินทับนทท.ดับ 2 สาหัส 1

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ร.ต.ท.พัชรา ต๊ะตา พรง.สส.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุสะเทือนขวัญ รถรับจ้างสาธารณะสี่ล้อแดง ยี่ห้อ อิซูซุ ทะเบียน 30-4050 เชียงใหม่ ซึ่งมีผู้ขับคือ นายยงยุทธ บุญเลิศ อายุ 45 ปี ไหลตกเนินลานจอดรถหน้าพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวชน์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บ 1ราย ทราบชื่อผู้ตายคือ 1.นางกรรณพร ตองติรัมย์ อายุประมาณ 60 ปี และ 2.นางดวงจันทร์ พงษ์เดช อายุ ประมาณ 60ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ คือนางละเอียด เจริญรัตน์ อายุ 74 ปี อาการค่อนข้างหนักแต่ยังมีสติดี ซึ่งได้เร่งนำส่ง รพ.มหาราชนครเชียงใหม่อย่างเร่งด่วนแล้ว

ร.ต.ท.พัชรา ต๊ะตา พรง.สส.สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายอนุวัฒน์ อยู่บำรุง หัวหน้าทัวร์ ที่พานักท่องเที่ยวมา ทราบว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ ชื่ออนุวัฒน์ทัวร์ จากจังหวัดพังงาที่ได้มาท่องเที่ยวยังจ.เชียงใหม่ จำนวน 38 คน โดยมี นายอนุวัฒน์ อยู่บำรุง เป็นหัวหน้าทัวร์ดังกล่าว โดยได้จอดรถทัวร์ไว้ที่ที่พัก คือโรงแรมวนัสนันท์ ถ.ซูเปอร์ไฮเวย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ แล้วจ้าง รถรับจ้างสาธารณะสี่ล้อแดง จำนวน 3 คันมารับ นักท่องเที่ยวเพื่อมาท่องเที่ยวยังวัดพระธาตุดอยสุเทพดอยปุยและพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ โดยได้นัดเวลาที่จะเดินทางกลับ ในเวลา 11:00 น. ก่อนเกิดเหตุนั้นผู้โดยสารทยอยเดินทางมาที่รถสี่ล้อแดงที่จอดไว้บริเวณลานจอดรถซึ่งเป็นเนินลาดชัน สูงจากชั้นล่างที่เป็นตึกแถว ร้านขายของที่ระลึกกว่า 5 เมตร

เมื่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งสามคนได้เดินทางมาที่รถ ขณะนั้นคนขับรถกำลังโบกเรียกผู้โดยสารอยู่ด้านหน้ารถ เมื่อมาถึงผู้โดยสารได้นั่งลงบริเวณที่นั่งด้านท้าย 2 คน ขณะที่คนที่ 3 (ผู้บาดเจ็บ)กำลังก้าวขึ้นรถรถเกิดการไหลถอยหลัง ขณะนั้นคนขับรถได้เห็นว่ารถไหล ก็ได้วิ่งเข้ามาเพื่อพยายามหยุดยั้ง แต่ไม่ทันการณ์ รถได้ไหลถอยหลัง พุ่งลงสู่ชั้นล่างสูงจากลานจอดรถประมาณ 5 เมตรส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันทีสองรายและบาดเจ็บหนึ่งราย ขณะที่รถยังถอยไปชนเข้ากับร้านขายของที่ระลึกได้รับความเสียหายบางส่วน

คาดว่า ผู้เสียชีวิตนั้น กระเด็นหลุดจากตัวรถ ก่อนที่รถจะทับร่างของผู้เสียชีวิตคาที่ อวัยวะบางส่วนเสียหายหนัก มี 1 รายที่สมอง กระเด็นไหลออกจากร่าง เลือดนองพื้น ซึ่งอย่างไรก็ตามจะได้มีการสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวให้แน่ชัด และเตรียมนำร่างของผู้เสียชีวิตนำส่งญาติไปประกอบพิธีกรรมตามศาสนาต่อไป