ครม.ไฟเขียวบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจจ่ายโบนัส!!

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้อนุมัติในหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสกรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทในเครือที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐวิสาหกิจที่เป็นผู้ถือหุ้น และได้จัดทำแนวทางการบริหารและกำกับแลรัฐวิสาหกิจและบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ โดยปัจจุบันมีบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ 158 แห่ง ถือหุ้นโดยบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจ 23 แห่ง แต่มีบริษัท 117 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ซึ่งจะให้เป็นไปตามเงื่อนไขและกลไกของตลาด ส่วนที่เหลืออีก 41 แห่ง พบว่า มีบริษัทที่เข้าเกณฑ์การจ่ายโบนัสในหลักการดังกล่าวได้รวม 9 บริษัท

สำหรับ 9 บริษัทที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย 1.บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ PEA ENCOM บริษัทในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2.บริษัท เอซีที โมบาย จำกัด บริษัทในเครือของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด หรือ DCAP บริษัทร่วมทุนระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. 4.บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด บริษัทในเครือ ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 5.บริษัท ไทยแลนด์ พริวเลจ คาร์ด จำกัด บริษัท ในเครือ ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.

6.บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทในเครือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. 7.บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือ รฟฟท. 8.บริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด หรือ NBN และ บริษัท บริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด หรือ NGDC

สำหรับเกณฑ์การจ่ายโบนัสกรณีที่มีกำไรไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้จัดสรรโบนัสให้กรรมการที่ 3% ของกำไร แต่ไม่เกิน 60,000 บาท และให้จัดสรรบตามขั้นบันได โดย 11,001-13,000 ให้ได้รับโบนัสแต่ไม่เกิน 130,000 บาท ขณะที่พนักงงานให้จ่ายในอัตรา 9% ของกำไรสุทธิ แต่ไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน กรณีวงเงิน 9% ของกำไรสุทธิต่ำกว่า 1 เท่าของเงินเดือน แต่มีกำไรสุทธิมากกว่า 1 เท่าของเงินเดือน ให้จ่ายในอัตรา 1 เท่าของเงินเดือน เป็นต้น และให้รัฐวิสาหกิจแม่รายงานผลการจัดสรรโบนัสให้กระทรวงการคลังรับทราบต่อไป

ทั้งนี้ การพิจารณาให้จ่ายโบนัส ให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ 3 ด้าน คือ การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและแผนยุทธศาสตร์ ผลการดำเนินงาน และการบริหารจัดการองค์กร ทั้งนี้ การจ่ายโบนัสนั้น ให้อิงตามผลงานข้างต้น แต่ห้ามนำรายได้ ประกอบด้วย กำไรจากการเอาประกัน ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เงินกู้ และเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของรัฐ ยกเว้นกรณีรัฐวิสาหกิจสถาบันการเงิน กำไรจากการขายที่ดิน อาคาร โรงงาน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงส่วนควบ กำไรจากการตีราคาทรัพย์สินใหม่ เงินอุดหนุนที่ได้รับจากรัฐบาล ยกเว้นเงินอุดหนุนตามระบบ PSO และ กำไรหรือขาดทุนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินตรา ซึ่งจะไม่นำมารวมเป็นรายได้เพื่อจัดสรรโบนัส