แผนรบ 'ฮิวแมนิก้า' เจาะลูกค้าระดับกลาง

แผนรบ 'ฮิวแมนิก้า' เจาะลูกค้าระดับกลาง

ขยับฐานลูกค้าบริษัทขนาดกลาง พันธกิจสำคัญ 'ฮิวแมนิก้า' ผลักดันรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% 'สุนทร เด่นธรรม' หุ้นใหญ่ โชว์ความโดดเด่น 'รายได้ประจำ' เกือบ 80% 'จุดขาย' หุ้นน้องใหม่ไอพีโอระดมทุน 8 ธ.ค.นี้

มีสัดส่วน 'รายไดประจำ' หรือ Recurring Income คิดเป็นเกือบ 80% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งสร้างความมั่นคงด้านรายได้เติบโตสม่ำเสมอ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน และลูกค้ามีความจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่สวิงตามความผันผวนของเศรษฐกิจมากนัก ถือเป็นความ 'โดดเด่น' ขององค์กรแห่งนี้...!! 

รวมทั้ง 'มีซอฟต์แวร์ Humatrix สามารถรองรับความต้องการที่ซับซ้อนของระบบบริหารทรัพยากรบุคคลของผู้ใช้งานในประเทศไทย' ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของหุ้นไอพีโอน้องใหม่ที่กำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 8 ธ.ค.2560 จำนวน 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นเงินระดมทุน 720 ล้านบาท 

'สุนทร เด่นธรรม' ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ฮิวแมนิก้า หรือ HUMAN ผู้นำในการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคลที่ครบวงจรด้วยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเอง ยืนยันกับ 'กรุงเทพธุรกิจ BizWeek'  ฟังเช่นนั้น

ปัจจุบัน 'ฮิวแมนิก้า' รับรู้รายได้จาก 2 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ธุรกิจการให้บริการด้านทรัพยากรบุคคล (HR Solutions) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 75% ประกอบด้วย การให้บริการรับช่วงบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและการจัดทำเงินเดือน (Human Resources and Payroll Outsourcing : HPO) และ การจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resources System: HRS) 

2.ธุรกิจการให้บริการด้านบริหารจัดการ บัญชีและการเงิน (Financial Solutions) ประกอบด้วย การให้บริการติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) และ การให้บริการจัดทำบัญชีและการเงิน (Accounting and Finance Outsourcing) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 25% 

สำหรับลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มองค์เอกชนขนาดใหญ่ที่มีพนักงานงานเกินกว่า 1,000 คนขึ้นไป ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ในทุกอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจค้าปลีก , ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม , สถาบันการเงิน , อสังหาริมทรัพย์ , สายการบิน , สินค้าอุปโภค/บริโภค เป็นต้น 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เล่าทิศทาง 'ธุรกิจรับจ้างบริหาร' (Outsourcing) ปัจจุบันกำลังเป็นที่สนใจมากขึ้นในเมืองไทย เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับนิยม สืบเนื่องจากสมัยอดีตเจ้าของธุรกิจอยากทำเองมากกว่า แต่ปัจจุบันผู้บริหารรุ่นใหม่ๆ มีความเข้าใจในเรื่อง Outsourcing มากขึ้นว่า Outsourcing  สามารถเข้ามาช่วยองค์กรได้อย่างไรบ้าง สะท้อนเห็นภาพจากสัดส่วนการรับงาน Outsourcing ที่เป็นบริษัทของไทยมากขึ้น

สอดคล้องกับปัจจุบันที่ 'ฮิวแมนิก้า' ทำธุรกิจ HR Solutions และ Financial Solutions ให้กับลูกค้าหลายองค์กรที่มีพนักงานรวมกันประมาณ 200,000 คน ทว่าพนักงานที่เป็นมนุษย์เงินเดือนประจำในเมืองไทยมีจำนวนเกิน 10 ล้านคนขึ้นไป ดังนั้น พนักงานที่มีเงินเดือนประจำที่เป็นลูกค้าของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 'แค่2%' เท่านั้น มูลค่าตลาดเหลืออีก 98% 

นั่นคือ โอกาสที่บริษัทจะเจาะตลาดเข้าไป และมองว่าเป็นตลาดใหญ่มากที่เราจะสามารถขยายฐานเข้าไปในอนาคต...!! 

หากพิจารณาการเติบโตขององค์กรแห่งนี้จะพบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557-2559) บริษัทมีรายได้เติบโตอยู่ที่ 212.77 ล้านบาท , 237.65 ล้านบาท และ 351.95 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25.58 ล้านบาท 39.49 ล้านบาท และ 71.06 ล้านบาท ตามลำดับ 

เจาะลึกลงในแผนธุรกิจหลังเข้าระดมทุนครานี้ พบว่า ในปี 2561 จะขยายตลาดมาเจาะกลุ่มบริษัทขนาด 'กลาง-เล็ก' หรือ middle market มากขึ้น ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีพนักงานต่ำกว่าระดับ 1,000 คน โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ง่ายขึ้น เหมาะกับบริษัทขนาดเล็ก จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นองค์กรบริษัทขนาดใหญ่ ยิ่งนำบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักและมีมาตรฐานมากขึ้น 

'ตอนนี้ฐานลูกค้าของ HUMAN เปรียบเหมือนกับพีระมิด ที่ปัจจุบันเราอยู่บนยอดของพีระมิด แต่ปีหน้าเราจะขยายฐานลูกค้าลงมาส่วนกลางและล่างของพีระมิด ซึ่งเป็นฐานที่ใหญ่กว่า'  

เขา บอกต่อว่า บริษัทยังขยายธุรกิจเข้าไปในต่างประเทศ 'สิงคโปร์-มาเลเซีย' โดยจะมีการปรับระบบซอฟต์แวร์ให้เข้ากับกฎหมายแรงงานและกฎหมายภาษีอากรของทั้งสองประเทศ (Localization) โดยปัจจุบัน HUMAN มีสาขาที่สิงคโปร์และมาเลเชีย โดยบริษัทลูกที่สิงคโปร์ เป็น HUB ในการทำงานกับพาร์ทเนอร์ในภูมิภาค 

โดยประเทศสิงคโปร์เปิดสาขาราว 1 ปี ส่วนประเทศมาเลเซียเปิดสาขาได้ราว 4 เดือน แต่ว่าทั้ง 2 ประเทศมีผลการดำเนินงานที่เป็น 'กำไร' ตั้งแต่แรก ซึ่งการขยายตัวออกไปต่างประเทศบริษัทมีแนวทางชัดเจนว่าเราจะไม่ใช่แค่ขยายธุรกิจด้วยการไปเปิดสาขาเท่านั้น แต่จะลงทุนก็ต่อเมื่อมั่นใจว่ารู้จริงในเรื่อง ที่บริษัททำได้ และทำได้ดีกว่าคู่แข่งที่อยู่ในประเทศนั้นๆ ถึงจะเข้าไปเปิดสาขา แต่หากบริษัททำได้ไม่ดีกว่าคู่แข็งในประเทศเหล่านั้น บริษัทจะไปจับมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศดังกล่าวแทน   

'เรามีความเชื่อว่าเทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้กระบวนการบริหารดีขึ้น ลดการใช้กระดาษและมีความ Real-time มากขึ้น'

สำหรับทิศทางผลประกอบการปี 2561  ตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปี 2560 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 20-30%  โดยงวด 6 เดือน มีรายได้ 234 ล้านบาท เนื่องจากปีหน้ามีลูกค้าจะใช้บริการของบริษัทมากกว่า 10 ราย ซึ่งมีจำนวนพนักงานรายละกว่า 1 หมื่นคน  และ จากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ จะนำให้เป็นที่รู้จัก และมีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เข้ามาใช้บริการบริษัทมากยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้น และ อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% และ 20 % ตามลำดับ  

สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน 720 ล้านบาท ของ HUMAN ครั้งนี้  ไปใช้เพื่อรองรับการเติบโต โดยจะนำไปใช้เพื่อ 1.ย้ายสำนักงานแห่งใหม่ จำนวน 25 ล้านบาท โดยสำนักงานแห่งใหม่จะมีพื้นที่รวมประมาณ  5,000  ตารางเมตร  ซึ่งจะเพียงพอกับการเติบโตของธุรกิจของบริษัทและบริษัทย่อยและคาดว่าจะสามารถย้ายไปสำนักงานแห่งใหม่ได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2561  

2.ลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 125 ล้านบาท เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ตั้ง Learning Center จำนวน 20 ล้านบาท  และ4. ลงทุนในบริษัทอื่นซึ่งจะต้องเป็นธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัทจำนวน 100 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจสุดท้าย

'หุ้นใหญ่' ทิ้งท้ายว่า อนาคตเราวางแผนการลงทุนในธุรกิจที่จะสร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัทเพื่อให้บรรลุพันธกิจการเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มรวมทั้งส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันระยะยาว

นักบัญชีสู่เจ้าของธุรกิจ

'ฮิวแมนิก้า' เกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีก่อน โดย 'สุนทร เด่นธรรม' อดีตพนักงาน บริษัท ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลก ที่ร่วมก่อตั้งธุรกิจด้านรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing : BPO) ให้กับ PwC จนเมื่อเกิดวิกฤติดอทคอมในปี 2002 บริษัทตัดสินใจยุบส่วนงานนี้ไป 

เขาเห็นว่ายังเป็นธุรกิจที่มีอนาคต จึงตัดสินใจออกมาตั้งบริษัทใหม่ใช้ชื่อ 'ฮิวแมนิก้า' ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เพื่อให้บริการด้าน HR Solution แก่บริษัทในประเทศไทย โดยมีลูกค้าเริ่มต้นแค่ 3 ราย และพนักงานแค่ 30 คน 

ช่วงแรกเริ่มธุรกิจในจังหวะที่ไม่ได้ดีมาก แต่พวกเขากลับไม่ได้รับผลกระทบนัก เนื่องจากโฟกัสแต่ลูกค้ารายใหญ่เป็นหลัก เขาเชื่อว่า ส่วนหนึ่งที่บริษัทขนาดใหญ่เลือกใช้ฮิวแมนิก้า เพราะเชื่อในประสบการณ์ของทีม และในเวลานั้นยังไม่ค่อยมีใครทำเรื่องนี้แข่งกับพวกเขา

ในปี 2548 บริษัทได้เริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ของตนเอง โดยใช้ชื่อว่า Humatrix เพื่อให้มีซอฟต์แวร์ในการจัดการทรัพยากรบุคคลที่เหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด และได้มีการพัฒนาต่อยอดซอฟท์แวร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ซอฟต์แวร์ Humatrix  ของบริษัทสามารถให้บริการจัดการทรัพยากรบุคคล 

ทั้งให้บริการรับช่วงบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและการจัดทำเงินเดือน (HR & Payroll Outsourcing) รวมทั้งจำหน่ายและให้บริการติดตั้งระบบบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HRS) เพื่อให้องค์กรของลูกค้าใช้งานเอง 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ ESSpace ซึ่งเป็น HRS ขนาดเล็กลงเพื่อรองรับลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) อีกด้วย