รวบแก๊ง 18 มงกุฎ หลอกขายที่ดินย่านบางกะปิ 100 ล.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย.2560 ที่กองปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ,พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก1 บก.ป. ทำการจับกุมตัว นายนบดี รักช่วย อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1909/2560 ลงวันที่ 22 ส.ค. 2560 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม" และ นายวิวัฒ ทักขพาณิชย์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1910/2560 ลงวันที่ 22 ส.ค. 2560 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม" พร้อมของกลาง หลักฐานการเปิดบัญชีธนาคารของนายวิวัฒ , ใบนำฝากเงินธนาคาร ,เอกสารในการซื้อขายที่ดิน โดยผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมตัวได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนหมายเลข 347 ม.8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

อย่างไรก็ตาม การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. หลังถูกกลุ่มคนร้ายหลอกขายที่ดินย่านบางกะปิ ในราคาเกือบ 100 ล้านบาท โดยตกลงจ่ายค่ามัดจำเป็นเงิน 19 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายทราบว่า กลุ่มคนร้ายไม่ใช่เจ้าของที่ดินตัวจริง จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ช่วยติตามคดี ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้เสียหายทราบว่า คนร้ายกลุ่มนี้มีจำนวน 4 คน โดยมีพฤติกรรมทำทีเข้ามาเสนอขายที่ดิน พร้อมนำสำเนาโฉนดที่ดินมาให้ผู้เสียหายดู เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อหรือตกลงรับซื้อไว้ กลุ่มคนร้ายก็จะขอเงินค่ามัดจำจำนวนมาก หลังจากนั้นกลุ่มคยร้ายก็จะเงียบหายไป

ทางด้าน พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายแล้ว ซึ่งพบว่าได้จ่ายเงินค่ามัดจำเป็นเช็คเงินสด จำนวน 19 ล้านบาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งพบว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกโอนไปยังบัญชีของ นายวิวัฒ ส่วนสำเนาโฉนดที่ดินที่กลุ่มคนร้ายเอามาแอบอ้างนั้น เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีที่ดินอยู่จริง แต่ทางเจ้าของนั้นได้ขายที่ดินดังกล่าวไปแล้ว อีกทั้งเจ้าของที่ตัวจริงก็ไม่ทราบว่า สำเนาโฉนดไปอยู่กับคนร้ายได้อย่างไร นอกจากนี้ยังพบว่า หนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ปลอมบัตรประชาชนขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เป็นชื่อเดียวกับโฉนดที่ดินดังกล่าว เนื่องจากจะทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลเพื่อติดตามผู้ต้องหาที่เหลือ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ยังคงให้การปฎิเสธ โดยนายวิวัฒ อ้างว่า นายนบดี เป็นคนชักชวนให้เปิดบัญชี เพื่อโอนเงินในการซื้อขายที่ดิน ซึ่งได้ส่วนแบ่งเป็นเงิน 3 แสนบาท ส่วนในเรื่องการหลอกซื้อขายที่ดิน ไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ก่อนจะควบคุมตัวส่งศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าได้จับกุมตัว นายเชวงศักดิ์ จรเสมอ อายุ 52 ปี หนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังคงเหลือผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย เป็นผู้หญิงทั้งคู่ และเป็นผู้ที่ปลอมชื่อในบัตรประชาชนให้ตรงกับชื่อในโฉนดที่ดิน ซึ่งขณะนี้บุคคลทั้ง 2 ยังหลบหนีอยู่ โดยขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว