“มีชัย” โล่งอก ส่งกฎหมายลูก 10 ฉบับให้ สนช.ทันเวลา ระบุร่างพ.ร.ป.ส.ส.และ ร่างพ.ร.ป.ส.ว. ยังไม่มีสัญญาณขัดแย้ง
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่าตนรู้สึกโล่งอก หลังจากที่ส่ง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ให้กับ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ครบทั้ง 10ฉบับ และทำได้ทันตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ 240 วัน ซึ่งจะครบช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ สำหรับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.นั้น ล่าสุดได้ส่งเข้าสารบบการพิจารณาร่างกฎหมายของ สนช.แล้ว และเมื่อได้รับการพิจารณารับหลักการของ สนช. กรธ.จะส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมฐานะกรรมาธิการวิสามัญ ส่วนการทำหน้าที่ของกรธ.ยังคงมีต่อไป โดยจะนัดประชุมสัปดาห์ละ 1-2 วันเพื่อพิจารณารายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
นายมีชัย กล่าวด้วยว่าสำหรับทิศทางของการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณความเห็นต่าง โดยสาระของร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นยังเป็นไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญ คือ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว, ทุกคะแนนเสียงของประชาชนมีความหมาย, เขตเลือกตั้งใดที่ผู้สมัครมีคะแนนน้อยกว่าคะแนนไม่ประสงค์จะลงคะแนนต้องจัดการเลือกตั้งใหม่และห้ามผู้สมัครายดังกล่าวลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ส่วนหมายเลขสมัครให้ยึดตามเขต ส่วนร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.นั้น หลักการคือให้เลือกกันเองผ่านระดับอำเภอ, จังหวัด และระดับประเทศ และใช้วิธีเลือกไขว้กลุ่ม ผ่านการจับสลากแบ่งสายเพื่อป้องกันการฮั้วลงคะแนนให้มากที่สุด โดยผู้ได้รับเลือก 10 อันดับแรกของกลุ่มจะได้เป็นส.ว. และอีก 5คนที่มีคะแนนลำดับถัดมาของกลุ่มจะได้บรรจุอยู่ในบัญชีส.ว.สำรอง
นายมีชัย ยังตอบคำถามถึงระบบเลือกตั้งที่บัญญัติไว้ในร่างพ.ร.ป.ส.ส. ที่ถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ให้พรรคขนาดกลาง ลดฐานเสียงพรรคใหญ่ด้วย ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายคำนึงเสียงประชาชนมากที่สุด ส่วนผลการลงคะแนนจะเป็นอย่างไรจะเป็นไปตามตรรกะของการลงคะแนน กรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตด้วยว่าแม้พรรคการเมืองได้เสียงข้างมากอาจตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องพิจารณาจำนวนและตัวเลขคะแนนประกอบด้วย หากมีคะแนนมากเกินจำนวนส.ส. จะนำไปคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ขณะที่คะแนนของผู้ไม่ประสงค์จะลงคะแนนยังมีความหมายเช่นกัน.