ปั้น‘แบรนด์ลีดเดอร์’โอกาสธุรกิจไทยสู่เวทีโลก

ปั้น‘แบรนด์ลีดเดอร์’โอกาสธุรกิจไทยสู่เวทีโลก

ในโลกยุคดิจิทัล เปิดโอกาสให้ธุรกิจไทยก้าวไกลไปเวทีโลก โดยหัวใจสำคัญคือกลยุทธ์ทางการตลาด ต้องควบคู่กับการ“สร้างแบรนด์” หากองค์กรธุรกิจไทยมีบุคลากรที่มีศักยภาพ ความสามารถเป็น Brand Leader ได้ จะมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน

วิเลิศ ภูริวัชร หัวหน้าภาควิชาการตลาด และที่ปรึกษาหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในเรื่องของอินเทอร์เน็ต เปิดโอกาสให้การทำตลาดต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ถึงขนาดที่ว่าแม้ธุรกิจขนาดเล็กอย่างเอสเอ็มอีเองก็สามารถขายสินค้าไปต่างประเทศได้ จากเดิมที่เป็นโอกาสเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ เท่านั้น กระนั้นโอกาสนี้จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจไทยได้ ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ควบคู่กับการทำการตลาด

“ที่ผ่านมาประเทศเราไม่สามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้ ก็เพราะเราขายสินค้า แต่ใช้เงินไปซื้อแบรนด์ วันนี้ถึงเวลาที่ต้องลุกขึ้นมาปรับวิธีคิดใหม่ ต้องสร้างคนของเราให้มีวิธีคิดเป็น Brand Leader ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงทำให้ไทยหลุดพ้นจากความยากจน แต่หมายถึงการคว้าโอกาสจากเทคโนโลยีวันนี้มาสร้างความได้เปรียบให้เต็มที่" 

แบรนด์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญกว่าการทำตลาด เป็นกลยุทธ์ทางความคิดที่ตกผลึกแล้ว เมื่อสร้างแบรนด์สำเร็จ ธุรกิจจึงมีมูลค่ามหาศาล  อย่างไรก็ตามคนที่จะสร้างแบรนด์ได้ จะต้องมีความรู้ทางด้านการตลาดด้วย

การสร้างแบรนด์และการตลาดจะต้องไปด้วยกัน เพื่อทำให้องค์กรธุรกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

แม้หลายปีที่ผ่านมา การสร้างแบรนด์จะถูกพูดถึงมากและหลายองค์กรทั้งเล็กและใหญ่มีความตื่นตัวให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ หากแต่ความเข้าใจเรื่องการสร้างแบรนด์ ยังเป็นความเข้าใจที่ผิดคิดว่าการสร้างแบรนด์ คือการสร้างโลโก้ และคิดชื่อแบรนด์ออกมาเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การสร้างแบรนด์ยังมีองค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งต้องอาศัยวิธีคิด และมุมมองที่ลึกและกว้าง ดังนั้นคณะบัญชีฯ จุฬาฯ เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องพัฒนาหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาดขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกของเอเชีย

ทางด้าน ดลชัย บุณยะรัตเวช ประธาน บริษัท เดนท์สุ วัน (กรุงเทพฯ) จำกัด นักสร้างแบรนด์มือหนึ่งของไทย กล่าวว่า แบรนดิ้งเป็นเรื่องของการกำหนดทิศทางการดำเนินงาน จึงมีความสำคัญมากกว่าการตลาด เพราะหากทิศทางไม่ชัด กิจกรรมทางการตลาดทั้งหมดที่ทำมา จะขาดพลังในการเชื่อมโยงและขาดความต่อเนื่องจนไม่สามารถนำไปสู่ผลสำเร็จได้

“พูดให้ชัดก็คือ คนที่เก่งมาร์เก็ตติ้ง คือคนที่ปฏิบัติเก่ง แต่แบรนดิ้งไม่ใช่แค่เรื่องของการลงมือทำ แต่เป็นเรื่องของ who you are คุณต้องคิดให้ตกผลึกว่าคุณจะเป็นใคร แล้วทำทุกอย่างเพื่อให้สื่อออกมาให้ได้ว่าคุณเป็นคนๆ นั้นจริงๆ" 

การตลาดนับจากนี้ไป จะทำแค่ลดแลกแจกแถม เหมือนในอดีตไม่ได้อีกแล้ว แต่เป็นการมองให้ลึกถึงความต้องการของลูกค้า และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการ แล้วสื่อสาร แบรนด์ออกไป โดยจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทั้งหมดที่คุณทำไปถึงอินไซต์ของลูกค้า

องค์ความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์ มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ แต่ที่ผ่านมาไม่มีสถาบันการศึกษาใดเปิดสอนอย่างจริงจัง การเรียนรู้ส่วนใหญ่จึงได้จากประสบการณ์จริง จึงเป็นเรื่องที่ดีที่คณะบัญชีฯ จุฬาฯ ได้เปิดหลักสูตรใหม่ เป็นหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด เชื่อว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการยกระดับธุรกิจของไทยให้ก้าวไกลไปสู่เวทีโลกได้