รถตู้ชนกระบะบาดเจ็บอื้อ นักข่าวสาวใหญ่เจ็บหนัก

รถตู้ชนกระบะบาดเจ็บอื้อ นักข่าวสาวใหญ่เจ็บหนัก

รถตู้จากกทม.มุ่งหน้าพะเยา ชนประสานงานรถกระบะ คาสามเเยกกลางเมืองเเพร่ บาดเจ็บอื้อ ส่วนนักข่าวสาวใหญ่เจ็บหนัก จนท.นำส่งรพ.

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน สารวัตรเวร สภ.เมืองแพร่ รับแจ้งมีเหตุรถตู้ท่องเที่ยว ชนกับรถกระบะมีคนติดอยู่ในรถและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายที่บริเวณสามแยกแก้ววรรณ หมู่ 7 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ จึงพร้อมกับ หน่วยกู้ชีพเวียงโกศัย หน่วยกู้ภัยแพร่ เดินทางไปสอบสวนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นบริเวณสามแยกแก้ววรรณ หมู่ 7 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ และรถคู่กรณี คือ รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า คอมมูเตอร์ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน 30-0924 เชียงราย และรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด เฮเลคเซอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 1977 แพร่ จอดขวางอยู่กลางถนน สภาพบริเวณด้านหน้าของรถทั้งสองคันพังยับเยิน และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ในรถหลายราย

รถตู้ชนกระบะบาดเจ็บอื้อ นักข่าวสาวใหญ่เจ็บหนัก

ในส่วนของรถตู้ คนขับติดคาอยู่บริเวณที่นั่งคนขับและยังรู้สึกตัว เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่ายช่วยงัดออกมานำส่งโรงพยาบาลแพร่ พร้อมกับ นำโดยสารจำนวน10 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและร่างกายส่วนใหญ่ มีอาการปวดหลัง นำส่งโรงพยาบาลแพร่

นางสาวอภิชญา ยอดยา อายุ 18 ปี ชาวจ.พะเยา ผู้โดยสารที่มากับรถตู้และได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนเดินทางจากจังหวัดพะเยาไปเที่ยวกรุงเทพเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขากลับมาถึงจังหวัดแพร่ รถได้ชนกับรถกระบะคู่กรณีกำลังเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.พะเยา

ขณะที่ รถกระบะมีผู้ขับขี่คือ นายกุลศักดิ์ ชัยวัณณคุปต์ อายุ 58 ปี โดยมี นางสาวอภิญญา สุขแสงศรี หรือ กุ้ง อายุ 48 ปี นักข่าวหนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์พิมพ์แพร่ ที่นั่งมาด้วยถูกอัดอยู่ที่นั่งข้างคนขับและได้รับบาดเจ็บตามร่างหลายแห่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาขณะหนึ่งนำตัวออกจากตัวรถกระบะนำส่งโรงพยาบาลแพร่โดยด่วน

รถตู้ชนกระบะบาดเจ็บอื้อ นักข่าวสาวใหญ่เจ็บหนัก

ทางด้าน พ.ต.ท.ปกิต ผัดขัน พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำคำพยานแวดล้อมและคู่กรณีซึ่งบางรายยังไม่สามารถให้ปากคำได้ และยังต้องเปิดกล้องวงจรปิดเนื่องจากเป็นสามแยกที่มีสัญญาณไฟ โดยรถกระบะจะเข้ามาในตัวเมือง ส่วนรถตู้กลับจากกทม.จะไปที่จ.พะเยา แต่เบื้องต้นทราบว่า นางสาวอภิญญาน่าจะเดินทางไปทำข่าวกลับมาและมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว และเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะตั้งข้อกล่าวหา