เอ็นทีทีชี้ขาขึ้นธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

เอ็นทีทีชี้ขาขึ้นธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

เผยการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยยังโตไม่หยุด เร่งเครื่องบริการโครงสร้างพื้นฐาน เจาะธุรกิจการเงิน ประกัน ดิจิทัลคอนเทนท์ ชูจุดแข็งปลอดภัยสูง ลงทุนได้ยืดหยุ่น มั่นใจรายได้ตลาดไทยเติบโตต่อเนื่อง

นายมานาบุ คาฮาระ ประธาน บริษัท เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการไอซีทีโซลูชั่นและการสื่อสารระหว่างประเทศ ในกลุ่ม เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนด้านไอทีรวมถึงดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประเมินเบื้องต้นปี 2560 พื้นที่สำหรับให้บริการเพิ่มขึ้น 40% ความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20%

ทั้งนี้ โดยเฉพาะภาคการเงินที่หันมาลงทุนรูปแบบเอาท์ซอร์ท แทนที่จะต้องลงทุนและบริหารจัดการด้วยตนเองทั้งหมด เนื่องจากเป็นแนวทางที่คุ้มค่ามากกว่า สินทรัพย์ยังคงเป็นของบริษัททว่าสามารถลดภาระการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที และสามารถหันไปโฟกัสกับธุรกิจหลักของตนเองได้มากขึ้น

เขากล่าวว่า ธุรกิจในไทยที่ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์เองมีอยู่กว่า 60% ขณะที่เฉลี่ยระดับโลกเหลือเพียงแค่ประมาณ 30% ดังนั้นชัดเจนว่าทิศทางตลาดมุ่งไปใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอกมากขึ้นแน่นอน ส่วนปี 2561 คาดว่าการลงทุนจะไม่มากเท่าปีนี้ ทว่ายังเห็นสัญญาณการเติบโตเชิงบวก

“ตลาดแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้นจากผู้เล่นรายเดิม รวมถึงรายใหม่ๆ ทั้งผู้ให้บริการเครือข่ายและไอเอสพี อีกทางหนึ่งการลงทุนของลูกค้านับว่ามีทิศทางที่ดี ด้วยหลายรายพยายามสร้างการเติบโต ขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้น”

สำหรับกลยุทธ์สำคัญ บริษัทมุ่งทำตลาดภายใต้แบรนด์ “เน็กซ์เซ็นเตอร์(NexCenter)” ที่เน้นด้านคุณภาพ ความยืดหยุ่น ภายใต้การลงทุนที่คุ้มค่า พร้อมนำความเชี่ยวชาญจากการให้บริการทั่วโลกมาใช้ช่วยลูกค้าในแต่ละท้องถิ่น เทคโนโลยีไฮไลต์เช่น บริการคลาวด์ ซิเคียวริตี้ การจัดทำศูนย์สำรองข้อมูลรองรับภัยพิบัติ พร้อมการสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ปัจจุบัน การให้บริการหลักๆ ประกอบด้วย 1.บริการเช่าพื้นที่วางอุปกรณ์ตู้แรค โดยมีระบบการจ่ายไฟฟ้าออกแบบเป็นสัดส่วนสำหรับลูกค้าแต่ละราย 2. บริการด้านเครือข่าย และ 3. บริการให้เช่าพื้นที่สำนักงาน สำหรับบริหารจัดการความต่อเนื่องธุรกิจ

ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีพนักงานฝ่ายขายกว่า 80 คน ทำตลาดร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการโซลูชั่น รวมถึงไปบริษัทที่อยู่ในเครือ

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลักๆ ยังคงเป็นธุรกิจธนาคาร ประกันภัย โดยมีทั้งลูกค้าเก่าที่ขยายพื้นที่เพิ่ม และลูกค้าใหม่โดยกลุ่มที่มีโอกาสทางการตลาดสูงเช่น ผู้ให้บริการคอนเทนท์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เกมออนไลน์ โลจิสติกส์ และธุรกิจข้ามชาติที่เข้ามาทำธุรกิจหรือมีสำนักงานในไทย

พร้อมระบุว่า ภาพรวมธุรกิจของเอ็นทีทีในไทยมีทิศทางที่ดีมาโดยตลอด เชื่อว่าปี 2560 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้ว่าการแข่งขันทวีความรุนแรง แต่บริษัทเชื่อมั่นในจุดแข็ง และคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น