GRAMMY - ถือ

GRAMMY - ถือ

พลิกกลับเป็นขาดทุนหลัก QoQ ในไตรมาส3/60

พลิกเป็นขาดทุนหลัก

GRAMMY รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส3/60 ที่ 773 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิที่ 11 ล้านบาทในไตรมาส3/59 และกำไรสุทธิที่ 9 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 หากไม่รวมรายการพิเศษการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีสำหรับค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ( 12 ล้านบาท), ค่าใช้จ่ายสำหรับการระงับข้อพิพาททางกฎหมาย 418 ล้านบาท และการบันทึกหรี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญในส่วนสินค้า Physical sales ร่วมกับดิจิทัลทีวี 266 ล้านบาทขาดทุนหลักจะอยู่ที่ 77 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนหลักที่ 5 ล้านบาทในไตรมาส3/59 และกำไรหลักที่ 22 ล้านบาทในไตรมาส2/60

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ต้นทุนขายและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% YoY และ 9% QoQ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวลดลง 14% YoY และ 12% QoQ รายได้ปรับตัวลดลง 10% YoY และ 4% QoQ ธุรกิจเพลงรายงานรายได้ปรับตัวลดลง 17% YoY และ 4% QoQ เนื่องจากยอดขายสินค้า Physical ที่ลดลงตามเทรนด์ของอุตสาหกรรม รายได้จากธุรกิจสื่อ GMM ปรับตัวลดลง 20%YoY (แต่เพิ่มขึ้น 5% QoQ) จากรายได้ธุรกิจวิทยุที่ปรับตัวลดลง 20%YoY รายได้จากการขายสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 19% YoY และ 11% QoQ ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัท วัน เอ็นเตอร์ไพรซ์ ลดลง 89% YoY แต่พลิกกลับเป็นขาดทุนจากที่เป็นกำไรในไตรมาส 2/60

แนวโน้ม

ขาดทุนหลักในไตรมาส4/60 คาดลดลง YoY ซึ่งได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวเม็ดเงินโฆษณา คาดอุตสาหกรรมสื่อของไทยจะกลับมาคึกคักในเดือนพ.ย.-ธ.ค. และฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส1/60 จากฐานที่ต่ำในไตรมาส1/60 (ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากช่วงการไว้อาลัย) อย่างไรก็ตามคาดขาดทุนหลักมากขึ้น QoQ จากช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการขาดทุนสุทธิในปี 2560 มาอยู่ที่ 856 ล้านบาท (จากก่อนหน้านี้ที่เราคาดกำไรสุทธิที่ 80 ล้านบาท) เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายพิเศษ นอกจากนี้เรายังปรับประมาณการผลประกอบการหลักมาเป็นขาดทุนหลักที่ 146 ล้านบาท (จากก่อนหน้านี้ที่เราคาดกำไรหลัก 126 ล้านบาท) เราจึงปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ลงจาก 15 บาท มาอยู่ที่ 12.40บาท

คำแนะนำ

คาด GRAMMY จะมีกำไรในปี 2561 ซึ่งได้แรงหนุนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งและอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยที่สูงขึ้น เราเชื่อว่าแนวโน้มระยะยาวสำหรับธุรกิจดิจิตอลทีวียังคงดีอยู่เนื่องจากคอนเท้นต์ในมือสามารถจับกลุ่มผู้ชมจำนวนมากได้และมีความสามารถในการแข่งขันในช่วงเวลาออกอากาศ prime-time ละครดังหลังข่าว อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายที่เราปรับลดลงมา ดังนั้นเราจึงแนะนำให้รอดูสัญญาณการฟื้นตัวและราคาเข้าซื้อที่เหมาะสม เราปรับลดคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น ถือ