ต้อนรับเรือรบ 26 ลำร่วมงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ

ต้อนรับเรือรบ 26 ลำร่วมงานมหกรรมทางเรือนานาชาติ

กองทัพเรือไทย ให้การต้อนรับเรือรบ 26 ลำ จากมิตรประเทศ เข้าร่วมมหกรรมทางเรือนานาชาติ

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 ที่ท่าเทียบเรือ การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบหมายให้ นาวาเอก กรัณย์ กลิ่นบัวแก้ว เสนาธิการ กองเรือตรวจอ่าว เป็นผู้แทนกองทัพเรือ ให้การต้อนรับเรือรบจาก 19 ประเทศในอาเซียน และมิตรประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และจีน รวม 26 ลำ ที่ส่งเรือรบเข้าร่วม มหกรรมทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review2017) เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียนที่จะจัดให้มีสวนสนามทางเรือขึ้นในวันที่ 20 พ.ย.60 ณ อ่าวพัทยา จ.ชลบุรี

พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน จึงได้จัดให้มี มหกรรมทางเรือนานาชาติ (International Fleet Review2017) ซึ่งเป็นพิธีสวนสนามทางเรือของเหล่า กองทัพเรือ ในอาเซี่ยน และมิตรประเทศ นับเป็นพิธีที่สำคัญของทหารเรือ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลสำคัญของประเทศ หรือต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติในประเทศไทย โดยมีเรือรบต่างชาติเข้าร่วม 26 ลำ ในส่วนของกองทัพเรือไทย ได้ส่งเรือรบหลวงเข้าร่วม 14 ลำ รวมเป็น 40 ลำ

ในการนี้ กองทัพเรือไทย ได้พิจารณาให้ เรือหลวงถลาง หมายเลข 621 สังกัดกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ เป็นเรือประธานในพิธี และเหตุผลในการใช้เรือหลวงถลาง เนื่องจากเป็นเรือรบหลักที่ทำหน้าที่ต่อต้านทุ่นระเบิดในทะเล ดำเนินการต่อเรือโดยบริษัทอู่ต่อเรือของคนไทย โดยการกำกับดูแลหรือเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพเรือ นับเป็นการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในการพึ่งพาตนเอง และความพอเพียงมาใช้ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในอุตสาหกรรมต่อเรือในประเทศ สนองนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนอุตสาหกรรมทางทหารในประเทศ นับเป็นเวลากว่า 37 ปี ที่เรือหลวงถลาง ขึ้นระวางประจำการและปฏิบัติราชการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเรือยังอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพเรือ แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของเรือที่ต่อใช้เองในประเทศ และการดูแลรักษาเรือของกำลังพลประจำเรือเป็นอย่างดี ถือเป็นความภาคภูมิใจ และแสดงออกให้นานาชาติเห็นถึงขีดความสามารถของกองทัพเรือ