ค้านแนวคิดส่งแข้งดาวรุ่งเตะซีเกมส์

ค้านแนวคิดส่งแข้งดาวรุ่งเตะซีเกมส์

“สมาคมฟุตบอลฯ ควรชุดที่ดีที่สุดไปแข่งซีเกมส์ เตรียมทีมให้ดี แข่งแล้วจะแพ้ชนะไม่ว่ากัน”

     ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ และ นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค มีความเห็นว่า ในการแข่งขันฟุตบอลระดับอาเซียน 2 รายการใหญ่ คือ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ" ซึ่งปกติใช้ทีมชุดใหญ่ ไม่จำกัดอายุ และ ซีเกมส์ ที่จำกัดอายุ 22-23 ปีนั้น ทีมชาติไทยสมควรส่งนักเตะรุ่นที่อายุน้อยกว่าเกณฑ์ในแต่ละรายการไปแข่งขัน เพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งพัฒนาฝีเท้า แม้จะอาจทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในด้านผลการแข่งขันในรายการนั้นๆ ก็ตาม

    "บิ๊กเสือ" นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า  สำหรับซีเกมส์ ซึ่ง กกท. เป็นฝ่ายเตรียมนักกีฬาทุกประเภทนั้น ตนมีความเห็นว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ไม่ใช่เกมสำหรับใช้เพื่อให้นักกีฬาได้ต่อยอดพัฒนา หากต้องการพัฒนานักกีฬา ต้องไปใช้เกมอื่น อย่างเช่นในทุกปี สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) จัดฟุตบอลในแต่ละลำดับอายุอยู่แล้ว หรือจะไปจัดทัวร์นาเมนท์พิเศษ เพื่อเป็นเวทีให้นักเตะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์

    "ถ้าจะเอาชุดเด็กต่ำกว่าเกณฑ์ ไปแข่งซีเกมส์ แล้วชุดยู 22-23 ตามเกณฑ์ของเขา เราจะเอาไว้ทำไม ผมว่าหากอยากพัฒนา ต้องไปพัฒนาที่รายการอื่น จะจัดรายการอินวิเตชั่นอะไรก็ได้ หรือเอเอฟเอฟ เขาก็มีจัดยู 19 สำหรับกีฬาซีเกมส์ไม่ใช่เพื่อพัฒนา ฟุตบอลเป็นกีฬาที่สังคมคาดหวังไว้สูง อย่างซีเกมส์ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย ต้องยอมรับว่าความสำเร็จกีฬาประเภททีม โดยเฉพาะฟุตบอลชาย ช่วยกอบกู้ผลงานโดยรวมของทัพนักกีฬาไทยไม่น้อย"

    ผู้ว่าการ กกท. กล่าวในตอนท้ายว่า ตนอยากให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ส่งชุดที่ดีที่สุดไปแข่งซีเกมส์ เตรียมทีมให้ดี แข่งแล้วจะแพ้ชนะไม่ว่ากัน ทว่าสุดท้ายแล้ว หากสมาคมฯ ยืนยันจะส่งนักเตะอายุต่ำกว่าเกณฑ์ไปจริงๆ กกท. ในฐานะฝ่ายเตรียมนักกีฬาคงต้องเชิญมาพูดคุยถึงสาเหตุกันอย่างละเอียด

    สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งต่อไป ครั้งที่ 30 ประเทศฟิลิปปินส์ จะเป็นเจ้าภาพในปี 2019