แม่ค้าเตรียมแจ้งความเอาผิดเสี่ยเต็นท์รถ ไม่คืนเงินโอนผิด2แสน

(11 พ.ย.60) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ณทชา อยู่ประพัต อายุ 42 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณสี่แยกยืนยง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจำนวน 200,000 บาทผิดบัญชี โดยตั้งใจจะโอนให้กับญาติที่ขอยืมเพื่อไปลงทุนทำธุรกิจ แต่ญาติส่งหมายเลขบัญชีมาผิด เมื่อตรวจสอบกับทางธนาคารพบว่าเงินที่โอนไปเข้าบัญชีของ นายมงคล เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถสิบล้อ ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังทราบว่าโอนเงินไปผิดบัญชี น.ส.ณทชา ก็ได้สอบถามไปยังญาติว่ารู้จักกับเสี่ยเต็นท์รถคนดังกล่าวหรือไม่ ได้รับคำตอบว่ารู้จักเพราะเคยทำธุรกิจซื้อขายรถด้วยกัน จากนั้นทั้งสองจึงได้พยายามทวงถามเงินจากเสี่ยเต็นท์มาตลอด จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 เดือนเสี่ยก็ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินให้ จึงเชื่อว่ามีเจตนาจะโกงแน่นอน

ล่าสุด น.ส.ณทชา แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว และนายเล็ก อรรคมุต ซึ่งเป็นญาติที่ยืมเงิน เตรียมเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินการทางกฎหมายและให้เสี่ยคืนเงิน เพราะเงินจำนวน 2 แสนบาทดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการค้าขายก๋วยเตี๋ยว

ขณะที่นายเล็ก อรรคมุต ซึ่งเป็นคนยืมเงิน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้ขอยืมเงินจาก น.ส.ณทชา จำนวน 2 แสนบาท เพราะต้องการจะเอาเงินไปจ่ายมัดจำในการซื้อขายรถ 10 ล้อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้รับการติดต่อจากนายมงคล เจ้าของเต็นท์รถว่าจะประมูลรถสิบล้อมือสองของบริษัทน้ำตาลแห่งหนึ่ง จำนวน 22 คัน จึงให้ตนเดินทางไปดูเพื่อตกลงราคา โดยนายมงคล ให้เหมารถทั้งหมดคันละ 310,000 บาท จึงตอบตกลงซื้อ แต่จะต้องทยอยซื้อทีละคัน จากนั้นนายมงคล ได้ส่งหมายเลขบัญชีธนาคารมาให้ เพื่อให้ตนโอนเงินไปจ่ายค่ามัดจำ และเมื่อยืมเงินจาก น.ส.ณทชา ก็ส่งหมายเลขบัญชีไปให้ น.ส.ณทชา แต่ไม่ทันได้ดูว่าเป็นบัญชีของนายมงคล และไม่ได้มีเจตนาจะให้โอนเงินเพื่อเข้าบัญชีนายมงคลแต่อย่างใด

กระทั่ง น.ส.ณทชา โอนเงินเสร็จ ก็ส่งสลิปเงินโอนมาให้ แต่กลับพบว่าชื่อผู้รับเป็นนายมงคล จึงรู้ว่าส่งเลขบัญชีไปให้ผิดแต่ก็พยายามทวงถามเงินคืนแล้ว เพราะต้องรับผิดชอบจำนวนเงินที่ยืมมาจาก น.ส.ณทชา เช่นกัน แต่หากนายมงคล ไม่ยอมคืนก็คงต้องแจ้งความเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป