'กบง.' คงราคาขายปลีก LPG ไว้ที่ 21.15 บาท/กก.

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้พิจารณาแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ให้คล้ายกับน้ำมัน โดยเห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์อ้างอิงราคาก๊าซLPG นำเข้า จากเดิมที่อ้างอิงด้วยราคาก๊าซLPG ตลาดโลก(CP) ที่ประกาศราคารายเดือน เป็นการอ้างอิงด้วยราคาLPG Cargo ที่มีการซื้อขายรายวัน ตามข้อมูลของบริษัท Platts เฉลี่ยเป็นรายสัปดาห์แทน

"หลักเกณฑ์ใหม่นี้ จะช่วยให้ราคาขายปลีกอ้างอิงปลายทางไม่ผันผวน และกระตุ้นให้ตลาดค้าปลีกก๊าซ LPG เกิดการแข่งขันมากยิ่งขึ้น โดยในการติดตามดูแลราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน ให้ สนพ. เผยแพร่ราคาแนะนำทั้งภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง ผ่านทางเว็บไซต์ของ สนพ. (www.eppo.go.th)ในทุกๆวันจันทร์ของสัปดาห์ เริ่มอย่างเป็นการวันที่ 13 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป" นายทวารัฐ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ สนพ.ศึกษารายละเอียดการค่าปรับการตลาดLPG ที่ผู้ค้าจะได้รับในอนาคตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 3.25 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าจะศึกษาเสร็จภายใน 6-8 เดือน

ส่วนการพิจารณาปรับราคาLPG ประจำเดือนพ.ย.นี้ พบว่า ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย มาอยู่ที่ระดับ 566.90 ดอลลาร์ต่อตัน ดังนั้น เพื่อลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กบง. จึงเห็นควรให้คงปรับลดอัตราเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ ลง 0.2440 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม ชดเชยที่ 6.5965 บาทต่อกิโลกรัม เป็นชดเชย 6.3525 บาทกิโลกรัม ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG คงเดิม อยู่ที่ 21.15 บาทต่อกิโลกรัม มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป

สำหรับฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 7 พ.ย.นี้ อยู่ที่ 36,685 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีในส่วนของก๊าซ LPG อยู่ที่ 4,499 ล้านบาท และบัญชีในส่วนของน้ำมันสำเร็จรูป อยู่ที่ 32,186 ล้านบาท