แม่อดีตนักข่าวสาว ร้องยธ.ช่วยรื้อฟื้นคดี หลังลูกติดคุก5ปี

แม่อดีตนักข่าวสาว ร้องยธ.ช่วยรื้อฟื้นคดี หลังลูกติดคุก5ปี

"เรียม" แม่อดีตนักข่าวสปริงนิวส์ ร้องยธ.ช่วยรื้อฟื้นคดีอาญา ระบุลูกสาวโดนจำคุก 6 ปี 8 เดือน คดีสนับสนุนน้องชายให้ก่อเหตุพยายามฆ่าผู้อื่น หลังติดคุก5ปีเศษแล้ว

นางเรียม ทองย้อย มารดาน.ส.ณัฐชา ทองย้อย อดีตผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ พร้อมด้วยนายสุรไกร ทองย้อย น้องชาย นำเอกสารหลักฐานมายื่นต่อพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมขอให้ช่วยรื้อฟื้นคดีอาญา ภายหลังน.ส.ณัฐชาถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 6 ปี 8 เดือน ในข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า โดยขณะนี้ถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 5 เดือนเศษแล้ว

นายสุรไกร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.56 นายสุชาติ ทองย้อย พี่ชายตนได้ทะเลาะกับคู่กรณี ซึ่งเป็นญาติเรื่องที่ดิน ระหว่างนั้นนายสุชาติได้ยิงปืนไปที่คู่กรณีรวม 3 นัด ทำให้ได้บาดเจ็บสาหัส เป็นจังหวะเดียวกับที่น.ส.ณัฐชา และตนวิ่งไปถึงที่เกิดเหตุพอดี แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อมานายสุชาติถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งนายสุชาติก็รับสารภาพและไม่สู้คดีศาลลงโทษจำคุก 10 ปี หลังเกิดเหตุ 2 เดือนคู่กรณีได้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับตนและน.ส.ณัฐชา อ้างว่าน.ส.ณัฐชาเป็นผู้บงการให้นายสุชาติยิง โดยตะโกนคำว่า “ยิงเลยๆ “ แต่ในชั้นอัยการมีความเห็นไม่ฟ้องตน ส่วนน.ส.ณัฐชาได้ปฏิเสธและสู้คดีมาตลอด อีกทั้งมีพยานบุคคลซึ่งทางบ้านได้ว่าจ้างมาปักรั้วลวดทำแนวเขตที่ดิน ก็ให้การยืนยันในชั้นตำรวจว่า น.ส.ณัฐชาไม่ได้พูดยุยงให้ยิงเลยๆ ต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกน.ส.ณัฐชา 6 ปี 8 เดือน ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา

ด้านนางเรียม กล่าวว่า หลังถูกจำคุกได้ไปเยี่ยมลูกสาวทุกสัปดาห์ ซึ่ง น.ส.ณัฐชายังทำใจไม่ได้ จึงได้ขอให้ทางครอบครัวช่วยเหลือรื้อฟื้นคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุครอบครัวก็ได้เยียวยาคู่กรณีที่บาดเจ็บตามคำพิพากษาไปแล้ว 1.2 แสนบาท ส่วนคู่กรณีที่บาดเจ็บสาหัสได้เรียกค่าชดเชย 4 ล้านบาทนั้น ทางครอบครัวไม่มีเงินจ่าย

ขณะที่ พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า ตนจะรับคำร้องเบื้องต้นไว้ และส่งเรื่องให้ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรมประสานไปยังยุติธรรมจังหวัดเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง. หลังจากนี้จะนัดผู้ร้องและทนายความมาหารืออีกครั้ง เนื่องจากเอกสารที่นำมายังไม่สมบูรณ์ โดยการรื้อฟื้นคดีต้องมีพยานหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักเพียงพอจะพิสูจน์ว่าจำเลยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุวิวาท หรือพยานฝ่ายโจทก์ให้การเป็นเท็จ