ขึ้นป้ายผ้าตั้งโลงศพ ไม่เอารง.น้ำตาล-ชีวมวลฯ พร้อมสาปแช่ง

เมื่อค่ำวันที่ 2 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 , ม.4 และหมู่ 10 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ได้นำโลงศพ จำนวน 6 ใบ มาตั้งประท้วงกลางตลาดวังใหม่ เพื่อคัดค้านการก่อสร้างโครงการขยายโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 60 เมกกะวัตต์ เนื่องจากก่อสร้างติดกับชุมชน-ตลาด สหกรณ์โคนมฯ และคาดว่าจะมีผลระยะยาวต่ออาชีพเลี้ยงโคนม อาชีพทำมะม่วงส่งออก และลำไยนอกฤดู ภายหลังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณาเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เมื่อวันที่ 25 ต.ค.60 ที่ผ่านมา โดยอาศัยสถานการณ์ช่วงงานพระราชพิธีฯและไม่พิจารณาข้อชี้แจงคัดค้านจากประชาชน ด้วยกระบวนการที่ไม่โปร่งใส มีเงื่อนงำ เพื่อผลักดันโครงการให้ได้นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงประมาณ 20.00 น. มีชาวบ้านในพื้นที่จำนวนกว่า 50 คน ได้ออกมารวมกัน ที่บริเวณด้านหน้าตลาดวังใหม่ ม.1 ต.วังใหม่ เพื่อจุดธูปเทียนสาปแช่งนายทุนและกลุ่มผลประโยชน์ที่มุ่งล้มอาชีพพระราชทาน พร้อมกับขึ้นป้ายที่เขียนจากผ้าห่อศพลงอักขระ เขียนด้วยข้อความว่า "พวกเราไม่เอาโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล" ส่วนที่โลงศพ ก็เขียนข้อความด้วยว่า "ไว้อาลัยแด่..ชาวโคนม" , "หายนะ จงบังเกิดแก่.." ,"ใครเนรคุณแผ่นดินเกิด ขอให้มันจง ฉิบหาย" , "ไว้อาลัยแด่สวนมะม่วง ลำไย" , "ไว้อาลัยแด่..ชาววังใหม่" และ "ไว้อาลัยแด่ ชาววังสมบูรณ์" เป็นต้น พร้อมทั้งได้นำพวงหรีดมาวางประดับโลงศพ และติดไฟประดับตลอดทั้งคืนจนกว่าจะมีกำหนดเผาโลงด้วย

ทั้งนี้ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ ตัวแทนชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน นำโดย น.ส.กนกกาญจน์ วงษ์ชัยยะ ตัวแทนชาวบ้าน ม.4 ,นายสมจิตร พันธ์เพ็ง ตัวแทนชาวบ้าน ม.1 ,นายรังสิต เจษฎาคม ตัวแทนชาวบ้าน ม.10 และสมาชิก อบต.วังใหม่ พร้อมชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานฯ ในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวนรวม 30 คน ได้เดินทางเข้าร่วมหารือและพูดคุยกับ นายวรภัทร ขำสุวรรณ นายอำเภอวังสมบูรณ์ และปลัดอำเภอ ซึ่งมีหน่วยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 19 ,กองกำลังบูรพา ,กอ.รมน.สระแก้ว ,เจ้าหน้าที่ทหารพราน จากกรมทหารพรานที่ 13 และตำรวจสันติบาล เข้าร่วมรับฟังการพูดคุยครั้งนี้

นายวรภัทร ขำสุวรรณ นายอำเภอวังสมบูรณ์ กล่าวยอมรับกับชาวบ้านว่า ไม่มีข้อมูลกรณีนี้ และไม่มีอำนาจในเรื่องการดำเนินการอนุญาตหรือการจัดทำอีไอเอ นอกจากโรงงานสร้างแล้วและเกิดปัญหาขึ้นจนมีการร้องเรียนเท่านั้น ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด ด้านหน้าห้องประชุมมีการติดป้าย "ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ห้ามเข้า" ชาวบ้านต่างนำข้อมูลและปัญหาการถูกกระทำจากผู้กลุ่มผลประโยชน์ นายทุน ผู้นำชุมชน ข้าราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ สผ.มาพูดให้ที่ประชุมรับฟัง แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

นายสมจิตร พันธ์เพ็ง อายุ 56 ปี ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ม.1 กล่าวว่า การนำโลงศพมาตั้งเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความตายที่จะมาถึงชาวบ้านในอนาคต ผลกระทบจากโรงงานฯมีมากมาย ชุมชนได้รับผลกระทบแน่นอน เราไม่เคยเห็นมีหน่วยงานไหนลงมาสนใจเราบ้าง ไม่เคยมาสอบถามเลยว่า ปัญหามันเกิดอะไรขึ้น เวลานี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชุมชน คนกลุ่มนั้นเป็นใคร ผมอยากทราบ ทำไมเค้ามีอำนาจมากมาย ละเมิดสิทธิชุมชนอย่างร้ายแรง ไม่ฟังใครทั้งนั้น จัดทำประชาพิจารณ์หรือรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สามารถขนคนภายนอกเข้ามาได้ มีตำรวจ ทหารอารักขาอย่างดี พวกผมไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น

ส่วน น.ส.กนกกาญจน์ บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยร้องเรียนตัวบุคคล แม้การยื่นถวายฎีกา เพราะต้องการเห็นชาวบ้านที่ไม่มีทางสู้ สู้ด้วยกฎหมาย การเดินทางไปให้ข้อมูลที่ สผ.มีการส่งหนังสือไปก่อนทุกครั้งและแจ้งว่า จะเดินทางไปกี่คน กลายเป็นเตรียมชุดจู่โจมมาข่มขู่ชาวบ้าน ประกบและบังคับให้ลงจากตึก เห็นชาวบ้านเป็นอะไรกัน ซึ่งสอดคล้องกับชาวบ้านอีกหลายคน ที่ระบุว่า รู้สึกเจ็บปวด ทำไมถึงเหยียบย่ำชาวบ้านกันขนาดนี้ ตั้งแต่ทำโครงการไม่เคยให้ข้อมูลที่ชาวบ้านรับรู้อะไรเลย พูดแต่สิ่งดี ๆ เมื่อ 4-5 วัน มาทำแก้ไขกระบวนการมีส่วนร่วม เอาเงินมาให้ชาวบ้าน เลี้ยงไก่ย่าง หรือกระดูกไก่ที่เขาซื้อให้หมากิน วางขนมจีนน้ำยา ตั้งเป็นโต๊ะในซอย จ่ายเงินให้คนที่มาดูแลนิดหน่อย เอาคนไปล้างศาลเจ้า ไปกวาดวัด กลับไปให้ผ่านแล้ว