รวบคาเบนซ์ สาวใหญ่ส่งไอซ์ให้สายลับ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (2 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจเมืองขอนแก่น พลตำรวจตรีสุรชัย ควรเดชะคุปต์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ฝ่ายด้านความมั่นคง และทหารผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 พร้อมด้วยผู้ใต้บังคับบัญชา พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วิชาธร พิมพ์กลม สวป.สภ.เมืองขอนแก่น แถลงข่าวจับกุมนางวราลี อายุ 40 ชาวอ.เมืองขอนแก่น พร้อมของกลางไอซ์น้ำหนัก 1,012.67 กรัม ยาบ้า 4,400 เม็ด ยาอี 4 เม็ด ปืนพกสั้นชิดอัดแก๊สแบบดัดแปลง ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 61 นัด โทรศัพท์มือถือ พร้อมกับอุปกรณ์จำหน่ายยาเสพติดเช่นตาชั่งแบบดิจิตอล ที่หนีบผมแบบใช้ความร้อน ช้อนตวง หลอดแก้วตวง ถุงพลาสติกใสทั้งแบบกดเลื่อนเปิดปิด แบบซีลสูญญากาศ และยังมีอุปกรณ์การเสพ นอกจากนี้ยังยึดรถเก๋งยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น CLA 250 สีเทา ทะเบียน 4กค-3289 กทม.มูลค่า 3 ล้านบาท เงินสด 53,600 บาท

พลตำรวจตรีสุรชัย ควรเดชะคุปต์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการฯสภ.เมืองขอนแก่น ได้มีการขยายผล และสืบทราบเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่นำมาขายให้กับผู้เสพในเมืองขอนแก่น โดยเฉพาะยาไอซ์ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้เสพที่มีรายได้ดี ซึ่งจะมีการส่งมอบยาไอซ์ที่บริเวณถนนหน้าอพาร์ทเม้นท์ป่ากลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ในคืนวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงได้วางแผนนำกำลังปิดล้อมจับกุมขณะที่รถเบนซ์เป้าหมายเข้ามาจอดเพื่อส่งยาไอซ์ โดยพบไอซ์ซุกใต้เบาะ 2 ถุงรวม 22.2 กรัม ปืนพกพร้อมเครื่องกระสุนซุกซ่อนในช่องเก็บของท้ายรถ จากนั้นได้ไปตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาที่คอนโดมิเนียมหรูริมบึงแก่นนคร พบ ไอซ์ 990.47 กรัม ยาบ้า 4,400 เม็ด และอุปกรณ์จำหน่ายอุปกรณ์เสพอยู่ภายในห้อง

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า การจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่ที่สุด และถือว่าเป็นผู้ค้ามือต้นๆ แต่ขบวนการกลุ่มนี้ค่อนข้างรัดกุม แม้ว่าจะสามารถจับกุมนางวราลีได้พร้อมของกลางจำนวนมาก เจ้าตัวอ้างว่ามีกิจการเต็นท์รถมือสอง และมีอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า แต่เมื่อมีการตรวจสอบปรากฏว่าไม่มีทรัพย์สินใดที่เป็นของนางวราลี แม้แต่ที่พักหรูซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมทั้งในขอนแก่น และกรุงเทพมหานคร ก็เป็นการเช่า เดือนละหลายหมื่นบาท รวมทั้งรถหรูคันที่ขับด้วยชื่อที่ครอบครองก็เป็นบุคคลอื่น แต่หลักฐานการผ่อนชำระเป็นของนางวราลี แต่เจ้าหน้าที่จะขยายผลเพื่อติดตามทรัพย์สินที่ซุกซ่อน รวมทั้งเครือข่ายเพราะถือว่านางวราลีเป็นผู้ค้ามือต้นๆ และทำมานานกว่า 3 ปี หลังจากที่หย่าร้างกับสามีชาวฝรั่งเศส เชื่อว่าจะมีเงินหมุนเวียนมหาศาล