“มาลี”จับมือยักษ์คอนซูเมอร์อินโดฯลุยตลาด

“มาลี”จับมือยักษ์คอนซูเมอร์อินโดฯลุยตลาด

“มาลี” ผนึกยักษ์คอนซูเมอร์อินโดนีเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุน เสริมแกร่งธุรกิจต่างประเทศ เดินหน้าผลิต-จัดจำหน่ายสินค้าป้อนกำลังซื้อ 2 ประเทศ

นายโอภาส โลพันธ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าบริษัทได้เซ็นสัญญาความร่วมมือจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีที คีโน่ อินโดนีเชีย (PT Kino Indonesia Tbk) หนึ่งในบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของอินโดนีเชีย ก่อตั้ง 2 บริษัทในการดำเนินธุรกิจใน 2 ประเทศ 

ได้แก่ ประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท มาลี คีโน่ ประเทศไทย จำกัด และในอินโดนีเซีย ชื่อ บริษัท พีที คีโน่ มาลี อินโดนีเซีย เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในไทยและอินโดนีเซียที่มีกำลังซื้อรวมถึงกว่า 330 ล้านคน ด้วยทุนจดทะเบียนร่วมกันของ 2 บริษัทรวม 400 ล้านบาท

การร่วมทุนดังกล่าว ถือเป็นประเทศที่ 2 หลังจากมาลีได้ร่วมตั้งบริษัท Monde Malee Beverage Corporation ที่ประเทศฟิลิปปินส์ใน 2558

ทั้งนี้ การเลือกอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศกลยุทธ์ขยายตลาด เพราะเป็นประเทศยุทธศาสตร์หลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เห็นได้จาก จำนวนประชากรที่มีมากกว่า 260 ล้านคน ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ประกอบกับจำนวนประชากรในกลุ่มชนชั้นกลางเติบโตอย่างมาก คาดว่าจาก 96 ล้านคนในปี 2558 จะเพิ่มเป็น 141 ล้านคนในปี 2563  และจีดีพี เติบโตเฉลี่ย 5% ทุกปี ทำให้มีกำลังซื้อสูง 

ขณะที่ พีที คีโน่ อินโดนีเชีย มีความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้า โดยมีศูนย์กระจายสินค้ากว่า 30 แห่ง ครอบคลุมร้านค้ามากกว่า 1 ล้านแห่งในอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและการทำการตลาดผลิตภัณฑ์ยอดนิยมติดอันดับต้นๆ ใน 4 เซ็กเมนต์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยา และยังมีหน่วยงานในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเฉพาะอีกด้วย

การดำเนินธุรกิจในไทย บริษัท มาลี คีโน่ ประเทศไทย จำกัด จะเน้นการทำการตลาดและการจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มบริษัทคีโน่ด้วยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล (Personal Care Products) ที่เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยและสำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศอินโดนีเซีย บริษัท พีที คีโน่ มาลี อินโดนีเซีย จำกัด จะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่ม รวมทั้งการขยายตลาดน้ำผลไม้ตรามาลี สำหรับผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในกลางปี 2561