คาดราคาน้ำมันดิบดูไบปี61อยู่ที่52-57ดอลล์/บาร์เรล

คาดราคาน้ำมันดิบดูไบปี61อยู่ที่52-57ดอลล์/บาร์เรล

"ปตท." คาดราคาน้ำมันดิบดูไบปี 61 อยู่ที่ 52-57 ดอลลาร์/บาร์เรล ตามสมมุติฐานเศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.7% ความต้องการใช้น้ำมันของโลกแตะ 1.4-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา 2017 The Annual Petroleum Outlook Forum โดยทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท. หรือ PRISM (Petrochemicals and Refining Integrated Synergy Management) ร่วมกับ กลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ว่า การนำเสนอข้อมูลและมุมมองเกี่ยวกับราคาน้ำมัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หรือ Disruptive Technology จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนและนโยบายภาครัฐในอนาคต

โดยทีม PRISM คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 52-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่คาดการณ์ราคาอยู่ที่ 45-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายใต้สมมุติฐานอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ(จีดีพี)โลกปี2561 อยู่ที่ 3.7% จากปี2560 คาดการณ์เติบโตที่ 3.6% และความต้องการใช้น้ำมันของโลก ปี2561 อยู่ที่ 1.4-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ปัจจัยเรื่องเทคโนโลยี โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ที่ปี2559 ทั่วโลกยังใช้รถไฟฟ้าอยู่ที่ 2 ล้านคัน 0.1% ของส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) ในตลาดรถยนต์ที่ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน อยู่ที่ 1,000 ล้านคัน รวมถึงนโยบายสิ่งแวดล้อม ยังไม่มีความชัดเจนมากพอในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในปี 2561 นั้น ยังต้องจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (นอนโอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ที่จะกำหนดมาตรการเพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันในอนาคต โดยทีม PRISM ประเมินไว้ 2 กรณี คือ กรณีที่กลุ่มโอเปกต่ออายุมาตรการลดกำลังผลิตไปจนถึงมิ.ย.ปี 2561 ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 50-55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และกรณีที่ 2 ลดกำลังผลิตถึงธ.ค.ปี 2561 ราคาน้ำมันดิบจะอยู่ที่ 52-57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล