MORNING CALL ACTION NOTES (30 ต.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (30 ต.ค.60)

ผันผวน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ปรับตัวขึ้นจากประเด็นบวกภายนอกประเทศ หลัง ECB ปรับลดวงเงิน QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป กอปรกับราคาน้ำมันฟื้นตัว หนุนกลุ่ม ENERG และ PETRO ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,716.03 จุด (+7.19 จุด) Volume 5.99 หมื่นลบ.  Foreign Net -2,185.95 ลบ.  TFEX Net +220 สัญญา ตราสารหนี้ +9 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบรรดาบริษัทเทคโนโลยี  อีกทั้งได้รับแรงหนุนจาก GDP สหรัฐประจำไตรมาส 3 ที่ปรับตัวขึ้น 3% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5%

+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากซาอุดิอาระเบียและรัสเซียออกมาประกาศให้การสนับสนุนการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต+น้ำมัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า และจำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 1 แท่นสู่ 737 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

+ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะเลือกนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นประธานเฟดคนใหม่

+วุฒิสภาสเปนมีมติอนุมัติรัฐบาลใช้ม.155 ยึดอำนาจการปกครองจากแคว้นกาตาลุญญาหลังจากที่ได้ประกาศเอกราชจากสเปนก่อนหน้านี้

+/- Fund Flow ยังผันผวนโดยต่างชาติ Net Sell 2 วันติดต่อกันที่ 3.93 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าสู่ 33.20 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือนก.ย. ราว 1.05 แสนสัญญา)

** จับตา AOT ชงบอร์ดเคาะสรุปโครงการ APM วันนี้ ILINK-ITD  คาดมีผลสรุป  2 ทาง "เคาะผู้ชนะงาน" หรือ "ล้มดีลประมูลใหม่"

**12 หุ้นบจ.ที่กระทรวงการคลังเตรียมขายตามมติครม.ที่ให้ขายหรือลดการถือครอง TMB, NEP, MFC, PDI, BCP, KBS, TISCO, NFC, YNP, TRUE, IRPC, ITD (ที่มา ข่าวหุ้น)

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐขานรับตัวเลข GDP ที่ออกมาดีกว่าคาด ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยลบกดดันจาก fund flow ที่ยังผันผวน และค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่า   คาดวันนี้ SET จะผันผวนในกรอบ 1,706-1,725 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- การปฎิรูปภาษีของสหรัฐ IVL EPG

- กลุ่มโรงกลั่นคาดกำไร Q3/17 เติบโต

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG  HARN FTE  ATP30 COMAN XO TPCH SYNEX ASIMAR  JWD  ERW CKP CPN

หุ้นแนะนำพิเศษ

TPIPP (ราคาปิด 7.95 Bloomberg Consensus 8.36)

  • บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 150 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 70 MW และโรงไฟฟ้าขยะ 80 MW และคาดว่าใน 4Q60 จะ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 แห่งกำลังรวม 290 MW ช่วยหนุนผลประกอบการใน 4Q60 ไปจนถึงปี 61สอดคล้องกับ Bloomberg ที่คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 86 พันล้านบาทเติบโ 57%YoY
  • ราคาหุ้นซื้อขายที่ PE Ratio 32 เท่า ขณะที่ GPSC และ BGRIM ซื้อขายที่ PE Ratio 34 และ 49 เท่าตามลำดับ ขณะที่กำลังการผลิตจะเติบโตกว่า 193% ในช่วง 4Q60 ทำให้มีความน่าสนใจในเชิง Laggard กลุ่ม

ส่องหุ้น

  • SPVI แนวรับ 1.58 , 53-1.52 บาท        แนวต้าน 1.61-1.62 , 1.79 บาท
  • MACO แนวรับ 2.16 , 12 บาท              แนวต้าน 2.26 , 2.42 บาท
  • MC แนวรับ 15.40-15.30 บาท             แนวต้าน 15.80-16.20, 60 บาท

หุ้นมีข่าว   

Ø  SYNTEC (ราคาปิด 6.15 ราคาเหมาะสม 5.95) อยู่ระหว่างรอผลประมูลงาน 10 โครงการ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดรู้ผล Q4/2560 จำนวน 12 โครงการ มั่นใจปีนี้ผลงานหรู รายได้ตามเป้า 8.5 พันล้านบาท ตุน Backlog 1.2 หมื่นล้านบาท เล็งลุยผลงานวางระบบสาธารณูปโภคเต็มสูบ  (ที่มาทันหุ้น)

Ø  ความเห็น เราคาดว่า 2H60 รายได้จากการก่อสร้างมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเนื่องจากมีโครงการที่เริ่มก่อสร้าง 8 โครงการ และมีโครงการใกล้แล้วเสร็จ 11 โครงการจากโครงการก่อสร้างทั้งหมด 39 โครงการ (ปกติโครงการเริ่มก่อสร้างและโครงการใกล้แล้วเสร็จจะรับรู้รายได้น้อยกว่าการก่อสร้างช่วงกลางโครงการ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 2H60 อาจอ่อนตัวลงตากระดับ 20% เนื่องจากงานประมูลใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่างานในมือ (ที่มา GBS Research)        

Ø  (+) ECF (ราคาปิด 7.60 ราคาเหมาะสม 5.06) เตรียมเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 600-800 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยดังกล่าวภายในวันที่ 31 ธ.ค. 60 (ที่มาทันหุ้น)

Ø  (-) GL ผู้สอบบัญชีเปลียนแปลงความเห็นจากเดิม “แสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข  แต่เปิดเผยแบบเน้นถึงข้อมูลและข้อสังเกต"  มาเป็น “การไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินอีกต่อไป ” สำหรับงบการเงินงวดปี 2559 งวด Q1/2560 และงวด Q2/2560 โดยให้เหตุผลว่าผู้บริหารของบริษัทอาจต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายและกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด  มีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงที่อาจจะไม่ได้นำมาเปิดเผยหากผู้กู้เป็นบุคคลในบริษัทเอง  จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆเพิ่มเติมเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้  ทั้งนี้ในส่วนของงบการเงินยังคงเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง  เช้านี้ตลท. ประกาศขึ้น SP ในการซื้อขายรอบเช้าวันนี้

Ø  TITLE หุ้นน้องใหม่แกะกล่อง "อสังหาเพื่อการท่องเที่ยว" มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของรายได้รวม กระจายอยู่มากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นจุดแข็งที่สำคัญและแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ที่สำคัญรับเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่า 75% จึงค่อยโอนทรัพย์ เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 2 พ.ย.นี้ (ที่มา ทันหุ้น)