หุ้น 'ผันผวน' หนุนวอลุ่มเทรดDW

หุ้น 'ผันผวน' หนุนวอลุ่มเทรดDW

ดัชนีผันผวนจากแรงขายทำกำไร หนุนนักลงทุนเทรด DW คึกคัก

หลักทรัพย์บัวหลวง ในฐานะผู้ครอง “ส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ใน DW อย่างต่อเนื่อง” โดยมีมูลค่าซื้อขายสะสมในสัปดาห์ที่ผ่านมาระดับ 5,608 ล้านบาท คิดเป็น 35.09% ของมูลค่าซื้อขาย DW ทั้งระบบ กล่าวถึงตลาด DW ในช่วงวันที่ 16-20 ต.ค. 2560 ว่า มีเม็ดเงินการเทรดสะสมรวมจำนวน 15,983 ล้านบาท (Total DW Turnover) หรือคิดเป็น 4.74% ของมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบ (Total Market Turnover) โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ก่อน 4,333 ล้านบาท

เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะ จากแรงขายทำกำไรทำให้ดัชนีพักฐานปรับตัวลงมาต่ำกว่า 1,700 จุด โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ต.ค. 2560 SET Index ปิดที่ระดับ 1,692.58 จุด ทำให้นักลงทุนเล็งใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่สูงขึ้น ด้วยการเก็งกำไรใน DW กันอย่างคึกคัก ข้อสังเกตุที่น่าสนใจ คือ แม้ว่าตลาดจะมีการพักฐานลงมา แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดโดยรวมสะท้อนจากสัดส่วนการซื้อขาย Call DW ต่อ DW ทั้งหมดที่ 81.55%

สำหรับหุ้นอ้างอิงในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนให้ความสนใจซื้อขาย DW สูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีหลักทรัพย์ (41.95%), กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (14.38%) และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (5.70%)

ในขณะที่หลักทรัพย์อ้างอิงยอดนิยมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SET50 Index ยังเข้าป้ายเป็นอันดับที่ 1 เหมือนเคยด้วยสัดส่วนการซื้อขาย 41.95% ของการซื้อขาย DW ทั้งระบบ ตามมาด้วยอันดับที่ 2 DW อ้างอิงบนหุ้น WORK ที่มีสัดส่วนการซื้อขาย 3.46% และอันดับที่ 3 DW อ้างอิงบนหุ้น DTAC ด้วยสัดส่วนการซื้อขาย 2.64%

โดย DW อ้างอิง SET50 Index ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา 3 อันดับแรกได้แก่ S5013C1712D, S5001C1712G, S5013P1712E โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 809 ล้านบาท 794 ล้านบาท และ 575 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่ DW อ้างอิงหุ้นรายตัวที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันดับที่ 1 WORK01C1801A ด้วยมูลค่าซื้อขาย 158 ล้านบาท ตามมาด้วยอันดับที่ 2 WORK13C1802A ด้วยมูลค่าซื้อขาย 153 ล้านบาท และอันดับที่ 3 CBG01C1802A มีมูลค่าซื้อขาย 112 ล้านบาท

สำหรับ DW01 อ้างอิง SET50 Index ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ S5001C1712G (มูลค่าการซื้อขาย 794ล้านบาท), S5001C1712F (มูลค่าการซื้อขาย 572 ล้านบาท), S5001P1712H (มูลค่าการซื้อขาย 316 ล้านบาท), S5001C1710B (มูลค่าการซื้อขาย 268 ล้านบาท) และ S5001C1712H (มูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท)

ในขณะที่ DW01 บนหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ WORK01C1801A (มูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท), CBG01C1802A (มูลค่าการซื้อขาย 112 ล้านบาท), BPP01C1801A (มูลค่าการซื้อขาย 96 ล้านบาท), DTAC01C1801A (มูลค่าการซื้อขาย 86 ล้านบาท) และ SAWA01C1802A (มูลค่าการซื้อขาย 79 ล้านบาท)

สำหรับ DW รุ่นที่มีอัตราทดสู งซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมั่นใจในทิศทางหุ้นแม่มากๆ โดยอัตราทดของ Call DW01 ที่สูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ S5001C1712H (15.59), S5001C1712G (11.52), S5001C1712F (8.38), KTB01C1711A (6.85) และ SCB01C1711A (6.80)

ในขณะที่อัตราทดของ Put DW01 ที่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ S5001P1712H (9.75), KBAN01P1711A (7.57), LH01P1711A (6.82), PTT01P1711A (6.66) และ BEM01P1711A (5.87) ทั้งนี้ DW ที่อัตราทดสูงจะมาพร้อมกับค่าเสื่อมเวลาที่สูงด้วยเช่นกัน (ข้อมูล ณ ปิดตลาด วันที่ 20 ตุลาคม 2560 โดยเลือกจาก DW ที่มีการเคลื่อนไหวตามราคาหุ้นอ้างอิงอย่างน้อย 1 ช่องต่อ 1 ช่อง)

“เคล็ดลับในการลงทุน DW ที่อัตราทดสูง คือ ต้องถือให้สั้นพอ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าเสื่อมเวลาที่แรงเกินไป”

นายบรรณรงค์  พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์หลักทรัพย์บัวหลวง แนะนำนักลงทุนว่า หากยังไม่มั่นใจทิศทางราคาหุ้นแม่มากนักควรเลือกเทรดรุ่นที่ค่าเสื่อมเวลาต่ำๆหน่อย เพื่อให้พอถือครองได้ โดยค่าเสื่อมเวลาของ Call DW01 ที่ต่ำสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ GPSC01C1801A (0.04%), BCPG01C1801A (0.06%), BCP01C1712A (0.08%), SAWA01C1802A (0.09%) และ CBG01C1802A (0.09%)

ขณะที่ค่าเสื่อมเวลาของ Put DW01 ที่ต่ำสุด 5 อันดับแรกได้แก่ S5001P1801A (0.15%), CPF01P1804A (0.16%), ITD01P1802A (0.16%), AOT01P1804A (0.16%) และ ADVA01P1804A (0.17%) (ข้อมูล ณ ปิดตลาด วันที่ 20 ตุลาคม 2560 โดยเลือกจาก DW ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 40 วันทำการ)

สำหรับ DW01 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น Put DW ที่อ้างอิงกับหุ้น PTTEP คือ PTTE01P1710A โดยสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น 47.78% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลงมาอย่างมีนัยยะโดยมาปิดที่ 86.25 บาท ณ สิ้นวันที่ 20 ตุลาคม 2560

ในช่วงที่ตลาดกลับมามีความผันผวนเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนหลายคนหันมาเก็งกำไร DW กันอย่างครึกครื้น เพราะสามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยหลายคนอาจมองว่าจะใช้ประโยชน์จากอัตราทดของ DW ได้อย่างไร แต่สิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้าม คือ การลงทุนใน DW มีความเสี่ยงสูงกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญโดยตรง เพราะ DW มีอัตราทดและค่าเสื่อมเวลา

ดังนั้นกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ การบริหารเงินบนหน้าตักในการลงทุนแต่ละครั้งให้เหมาะสมกับขนาดพอร์ตโดยรวมและต้องมีวินัยในการขายทำกำไรหรือตัดขาดทุน ยิ่งเทรดหุ้นต้องมีวินัยเท่าไหร่ การเทรด DW ต้องมีวินัยยิ่งขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงแนะนำให้นักลงทุน “เพิ่มความระมัดระวังในการเทรด DW ที่มีอัตราทดสูง” เนื่องจาก DW พวกนี้มีต้นทุนการถือครองที่สูงมากและหากหุ้นแม่วิ่งผิดทางอาจทำให้เกิดการขาดทุนได้มาก

ทั้งนี้นักลงทุนควรตรวจสอบราคาที่เหมาะสมของ DW แต่ละรุ่นก่อนการลงทุนที่ www.blswarrant.com เพื่อป้องกันปัญหาซื้อ DW ที่ราคาสูงเกินจริง