สามีมั่นใจหลักฐาน 'ผอ.อ้อย' ถูกทำร้ายตายเขตฐานปฏิบัติการ

สามีมั่นใจหลักฐาน 'ผอ.อ้อย' ถูกทำร้ายตายเขตฐานปฏิบัติการ

ตำรวจเก็บหลักฐานเพิ่มพบสายรัดเอว กระดูกซี่โครง กระโปรง สามีเชื่อ "ผอ.อ้อย" ถูกทำร้ายตายเขตฐานปฏิบัติ ส่วน "ร.อ.ศุภชัย" มีคำสั่งจากกองทัพบกให้ออกจากราชการแล้ว

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 60 บริเวณเนิน 500 ฐานปฏิบัติการอนุพงษ์พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต พื้นที่ชายแดนไทย-ลาว-กัมพูชา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ดูแลพื้นที่ ได้กั้นพื้นที่ที่พบโครงกระดูกไว้เป็นพื้นที่ต้องห้าม โดยจัดกำลังทั้งสองฝ่ายเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงมีระเบิดฝังอยู่เป็นจำนวนมาก จึงห้ามทุกคนเดินออกนอกเส้นทาง และออกนอกพื้นที่ควบคุมเพื่อความปลอดภัย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจาก สภ.น้ำยืน ประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจาก สภ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณที่พบชิ้นส่วนเพิ่ม มีทั้งสายรัดเอวลดและควบคุมน้ำหนักที่ ผอ.อ้อย ใช้เป็นประจำ กระโปรง และซี่โครงมนุษย์ เชื่อเป็นของผอ.อ้อย ทั้งหมด ท่ามกลางความสนใจของญาติพี่น้องที่เดินทางมาจากบ้านซำเม็ง และชาวบ้านในเขตอำเภอน้ำยืน ทยอยเข้ามาดูด้วย

จากการสอบถามนายวิทยา เกตุแก้ว สามี ผอ.อ้อย กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และส่วนพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บชิ้นส่วนต่างๆ ที่พบไปเมื่อคืนนี้ หนึ่งในนั้น คือ หัวกะโหลกและฟัน จึงมั่นใจว่าเป็นของ ผอ.อ้อย ภรรยา นอกจากหัวเข็มขัด ผม และเมื่อเช้านี้พบหลักฐานเพิ่มยิ่งมั่นใจว่า ภรรยาถูกทำร้ายที่นี่อย่างแน่นอน

ส่วน ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ต้นสังกัดได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไปแล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรม ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกองทัพอีกต่อไป ไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการคุมครองจากนายทหารพระธรรมนูญ อีกแล้ว ดังนั้นจากนี้ก็เป็นการต่อสู้ในเรื่องรูปคดีแบบประชาชนคนธรรมดาปกติ ซึ่งน่าที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการได้อย่างเต็มที่ และรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านกองทัพอีกต่อไป