ธุรกิจอุดมข้อมูล มิติใหม่การบัญชียุคดิจิทัล

ธุรกิจอุดมข้อมูล มิติใหม่การบัญชียุคดิจิทัล

การมาของดิจิทัลส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการธุรกิจในหลายภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ส่วนงานหลังบ้านอย่าง  “การจัดทำบัญชี” ที่วันนี้หากไม่นำไอทีมาช่วยเสริมแกร่งอย่างเป็นรูปธรรมมีโอกาสเพลี่ยงพล้ำตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลง

“ชาญชัย ชัยประสิทธิ์” หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชี บริษัท พีดับบลิวซี ประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจและการจัดทำรายงานทางการเงิน

ปัจจุบัน หลายกิจการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานมากขึ้น ทั้งระบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation) และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล

“เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยในการจัดทำบัญชี วิเคราะห์ ตรวจจับความผิดปกติของข้อมูล ช่วยลดการทำงานซ้ำๆ หรืองานประเภทรูทีน งานที่ใช้เวลามากๆ หรือใช้การตัดสินใจน้อย แต่เทคโนโลยีจะยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่การทำงานของนักบัญชีได้อย่างเต็มที่ เพราะความรับผิดชอบและความสามารถในการตัดสินใจที่ต้องอาศัยประสบการณ์ยังคงเป็นหัวใจหลักของการทำงานด้านบัญชีอยู่”

เขากล่าวว่า ระบบอัตโนมัติและเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลถือเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถเก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานทางการเงินได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถจัดทำข้อมูลที่เป็นประโยชน์และเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจได้อย่างทันเวลา ซึ่งทั้งหมดจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถจัดการกับความท้าทายดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น

ขณะที่ อิทธิพลของดิจิทัลและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป ยังส่งอิทธิพลต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้การรายงานทางการเงินเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ นับเป็นมาตรฐานทั้งเรื่องการรายงานรายได้ในการดำเนินธุรกิจของกิจการ ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และสัญญาเช่า

ขณะเดียวกันสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แท้จริงของธุรกิจที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ทำให้นักบัญชีต้องเร่งศึกษา ทำความเข้าใจ และตามมาตรฐานเหล่านี้ให้ทัน

ดังนั้น ธุรกิจจำต้องเร่งสร้างนักบัญชีที่มีความรู้ ความสามารถเพียงพอกับความต้องการของตลาด กิจการที่มีหุ้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อรายงานทางการเงินของกิจการทำการสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ให้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในการรายงานตัวเลขรายได้ผลการดำเนินงานอื่นๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นต่อบริษัทในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ปัจจุบัน ปริมาณของข้อมูลมีจำนวนมหาศาล รายการมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้บริหารจึงจำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจและเลือกวิธีการจัดการที่เหมาะสมกับสภาพกิจการ รวมทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการนอกจากความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลง

แม้ว่าความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความรวดเร็วในการตัดสินใจในการรับมือและจัดการกับความเปลี่ยนแปลงก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับกิจการที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้ทันกับสถานการณ์มากกว่า