'หญิงหน่อย' เปิดตัวแรง เจ็บตัวเร็ว

'หญิงหน่อย' เปิดตัวแรง  เจ็บตัวเร็ว

"คุณหญิงสุดารัตย์ เกยุราพันธุ์" เปิดตัวแรง เจ็บตัวเร็ว!!

ภาษิตทางการเมืองมีว่า "เปิดตัวเร็ว ก็เจ็บตัวเร็ว" และ เมื่อเจ็บตัวเร็วก็หมายถึง "ช้ำเร็ว" ซึ่งคำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้เสมอๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่เป็นตำบลกระสุนตก หลายคนคว่ำไม่เป็นท่าก่อนจะถึงฝั่งฝัน

หากจำได้การเลือกตั้งเมื่อปี 2554 "พรรคเพื่อไทย" ก็ไม่ได้เร่งเปิดตัว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้จะรู้กันเป็นการภายในมาสักพัก แต่ก็ไม่ได้มีความชัดเจนอะไรมากมาย ขณะที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้ออกตัวแรง แถมยังแทบอยู่ในภาวะเก็บตัวด้วยซ้ำ

ทำให้จนถึงวันเปิดตัวเมื่อเดือน พ.ค. 2554 ก่อนการเลือกตั้งเพียงเล็กน้อย "ยิ่งลักษณ์" ก็ไม่ได้ช้ำอะไรมากนัก และใช้เวลาเพียงเท่านั้นก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง "นายกฯหญิง" คนแรกของประเทศไทย

เช่นเดียวกับ "สมัคร สุนทรเวช" ที่เปิดตัวเป็นเบอร์หนึ่งของพรรคพลังประชาชนก่อนการเลือกตั้งไม่นานเช่นเดียวกัน

จริงอยู่ที่แม้ล่าสุด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะประกาศวันเลือกตั้งเป็นช่วงเดือน พ.ย. ปี 2561 แต่ก็ต้องบอกว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 1 ปี อาจจะดูไม่นาน แต่สำหรับผู้ที่จะต้องตกเป็นเป้าแล้วถือว่าสาหัสสากรรจ์ทีเดียว

ที่ผ่านมา "เพื่อไทย" อยู่ในสถานะที่เรียกเสียเปรียบทุกประตู การขยับทุกอย่างถูกจับตามอง และถูกคาดหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องถูกบอนไซ ไม่ให้กลายเป็นพรรคใหญ่ ดังนั้นใครที่จะมาเป็นผู้ถือธงนำของพรรคการเมืองนี้ในอนาคต ต้องเป็นผู้ที่ยืนอยู่ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ

และที่แน่ๆ คนที่จะมาถือธงนำ คนนั้นย่อมต้องถูกปะหน้าว่าเป็นคนในเครือข่าย "ทักษิณ ชินวัตร" และจะถูกคนจำนวนหนึ่งจงเกลียดจงชัง

แม้หนทางจะยากลำบากแค่ไหน แต่ก็ยังมีคนที่ปราถนาอยู่ในตำแหน่งนี้ไม่น้อย โดยมีทั้งคนที่ประสงค์ออกหน้าและไม่ประสงค์ออกหน้่า เพราะหากจับพลัดจับผลูสู้ได้ อาจจะกลายเป็นผู้นำประเทศ

นอกจากนี้ยังมีอีกบางประเภทที่มองว่าแม้จะสู้ไม่ได้ แต่หากทำตัวเป็นมือประสานสิบทิศโดยเฉพาะอย่างยิ่งประสานกับผู้มีอำนาจยุคปัจจุบันได้ หนทางการเมืองในวันข้างหน้าก็สดใสไม่น้อย ถึงจะไม่ได้เป็นเบอร์หนึ่ง แต่ก็อยู่ในฐานะที่ไม่ด้อย และหากทำตัวดีๆอาจมีส้มหล่นได้ไม่ยาก

เราจึงเห็นชื่อแคนดิเดท ว่าที่ผู้นำพรรคเพื่อไทยปรากฏออกมาอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะเป็น "มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล" "เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส" และอีกหลายคนผลัดเปลี่ยนเข้ามาแต่ถึงนาทีนี้ถ้าบอกว่าแรงสุดก็คงหนีไม่พ้น "หญิงหน่อย - คุณหญิงสุดารัตย์ เกยุราพันธุ์"

ที่ผ่านมา "หญิงหน่อย" ถูกจับว่าตอนนี้เป็นเต็งหนึ่งที่จะเป็นเบอร์หนึ่ง ด้วยความเชื่อว่าจะสามารถประสานกับกลุ่มขั้วขัดแย้งได้ นอกจากนี้ที่ผ่านมาเธอก็เข้าไปร่วมประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับสมาชิกและอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงที่ระบุว่า ณ ปัจจุบัน คนแดนไกลรวมถึงคนใกล้ชิด เห็นด้วยที่จะให้เธอเป็นแม่ทัพในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

และที่ผ่านมาเธอเองก็ไม่ได้กระมิดกระเมี้ยนแต่อย่างใด ซ้ำยังเปิดตัวทำกิจกรรมอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือน้ำท่วม การพบปะประชาชน หรือการทำความสะอาดวัดวาอาราม เพราะช่วงปิดเทอมทางการเมืองที่ผ่านมาเธอมักประกาศว่าเดินไปในเส้นทางธรรม

แต่เมื่อเธอเปิดตัว ทุกสายตาก็จับจ้อง และแน่นอนว่าไม่ได้มีทุกคนที่จะชื่นชอบ กับฝั่งตรงข้ามพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าอย่างไรย่อมจับผิด และมองว่าการกระทำของเธอไม่มีความจริงใจ หากแต่เป็นการทำเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมือง

กับกรณีล่าสุด การขึ้นรถรณรงค์ปลูกดอกดาวเรืองในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอุดลยเดชฯ ก็ถูกโจมตีว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ร้อนถึงเธอที่ต้องรีบออกมาแถลงแก้ไขทั้งน้ำตาว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงหาประโยชน์ทางการเมือง และทำในฐานะคนไทยที่สำนัึกในพระมหากรุณาธิคุณ

และจากนี้ไปสิ่งที่เธอต้องเจอถือเป็นวิถีทางการเมือง ที่ย่อมต้องถูกโจมตีในเรื่องต่างๆ ซึ่งเธอก็เป็นนักการเมืองที่เรียกได้ว่า “เก๋าเกม” ย่อมต้องรู้ึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นและแรงเสียดทานเป็นอย่างดี

หากสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าแรงเสียดทานภายนอกนั่นคือ แรงเสียดทานภายใน ต้องบอกว่าสถานการณ์ของเธอต่างจาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในครั้งเลือกตั้งเมื่อปี 2554 เพราะครั้งนั้นทุกคนรู้ว่า "ยิ่งลักษณ์" คือ สายตรง คือ "น้องสาว" ของ "ทักษิณ ชินวัตร" จึงไม่มีเสียงต่อต้าน และทุกคนพร้อมอกพร้อมใจกันทำเต็มกำลังผลักดันจนเธอก้าวขึ้นสู่อำนาจได้สำเร็จ

แต่ "หญิงหน่อย" ไม่ใช่ "ยิ่งลักษณ์" เธอไม่ใช่น้องสาว "ทักษิณ" เธอไม่ใช่ "ชินวัตร" ซ้ำยังเป็นนักการเมืองเก๋าเกมที่เคย ช่วงชิงอำนาจ และเคยเป็นก๊กเหล่าที่แข่งขันกันในพรรคใหญ่อย่าง "เพื่อไทย" "พลังประชาชน" และ "ไทยรักไทย" มาก่อน

เอาจริงๆคนที่ยอมรับ "หญิงหน่อย" อย่างไม่มีเงื่อนไขก็มีเพียง ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นกลุ่มก้อนของเธอมาแต่ต้นนั่นเอง เช่นเดียวกับทีมงานของเธอก็เป็นทีมงานเมืองกรุง ขณะที่นักการเมืองต่างจังหวัด และผู้บริหารพรรครุ่นใหญ่ แทบไม่เข้ามาช่วยในการเตรียมตัวเลย

ต้องบอกว่า อดีต ส.ส. ของพรรคในต่างจังหวัดนั้น ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ "หญิงหน่อย" จะเป็นผู้นำพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง ในส่วน ส.ส.อิสานนั้น มองว่าการที่เธอมีภาพลักษณ์ที่พร้อมจะประสานกับขุนทหารนั้น ถือเป็นจุดอ่อนอย่างยิ่ง และขัดกับอุดมการณ์การต่อสู้ที่ผ่านมาซึ่งจะทำให้ยากในการไปอธิบายกับประชาชนในพื้นที่

ส่วน ส.ส. ทางเหนือนั้น ต่างก็อยู่ในกลุ่มของ "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อีกหนึ่งในน้องสาวของ "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งเธอก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ "หญิงหน่อย" จะมาเป็นเบอร์หนึ่งเช่นกัน

การเคลื่อนไหวของเธอในทุกวันนี้จึงโดดเดี่ยวและเดียวดาย

ต้องบอกว่า "พรรคเพื่อไทย" นั้นที่ผ่านมากำลังหลักของการเคลื่อนไหวนั้นอยู่ที่ นักการเมืองภูธร ทั้งจากภาคเหนือ และ ภาคอิสาน ขณะที่กทม. นั้นมีบทบาทไม่มากนัก จึงน่าสนว่าหนทางจากนี้ของ "หญิงหน่อย" จะเป็นอย่างไรต่อไป ในวันที่ทั้งศึกนอกและศึกในยังพุ่งเป้ามาที่ตัวเธอ

กว่าจะถึงวันเลือกตั้งเธอจะช้ำขนาดไหน และเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าสุดท้ายแล้วเธออาจจะเป็นแค่ตัวหลอกรอวันตัวจริงลงสนามจะเป็นจริงแค่ไหน แต่ที่แน่ๆแค่วันนี้เธอก็อ่วมอรทัยแล้ว