BLA - ซื้อ

ประเด็นการลงทุน

เราปรับลดประมาณการกำไรของ BLA ปี 2561 ลง 6% มาอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้นที่เพียง 4% YoY) แต่ประมาณการกำไรปี 2560 ยังคงอยู่ที่ 5.3
พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY การปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 เพื่อสะท้อนการที่ AIA เริ่มขายกรมธรรม์ประกันแบบตลอดชีพ ผ่านตามเครือข่ายสาขา BBL แม้ว่าจะเป็นข่าวร้าย แต่เรารู้สึกมีแนวโน้มเชิงบวกต่อผลประกอบการของ BLA ในช่วงครึ่งหลังปี 2561 –ปี 2562 จากยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงผ่านทางตัวแทน, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวที่ยังคงทรงตัวในไตรมาส4/60 และแนวโน้มอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2561 เพื่อหนุนอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่า 4.7% ดังนั้นเราจึงปรับเป้าหมายการลงทุนเป็นปี 2561 ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 55 บาท อ้างอิงจากการประเมินมูลค่าธุรกิจที่ 44.30 บาทต่อหุ้น และมูลค่าของธุรกิจใหม่ที่ 10.72 บาทต่อหุ้น

ปรับลดเบี้ยประกันปี 2561 ลงจากดีลของ AIA

BBL เซ็นสัญญา 15 ปี กับ AIA (ประเทศไทย) เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ประกันแบบตลอดชีพผ่าน 1,200 สาขา ซึ่งหมายความว่า BLA อาจดึงผลิตภัณฑ์นี้ออกจากสาขา BBL และเปลี่ยนมาเน้นขายผ่านตัวแทนหรือขายแบบออนไลน์ เราปรับลดสมมติฐานเบี้ยประกันรวมปี 2561 ลง 12.5% มาอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท แต่สมมติฐานเบี้ยประกันรวมปี 2560 ยังคงอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY ทั้งนี้ BLA คาดว่าผลกระทบดังกล่าวจะกดดัน
ยอดขายในปีหน้าเพียง 7-10% แต่สำหรับผลิตภัณฑ์เครดิตไลฟ์และประกันแบบสะสมทรัพย์ (90% ของยอดขายของ BLA) จะยังคงจำหน่ายผ่านทาง
สาขาของ BBL ตามปกติ

แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มจะหนุน ROI ปีหน้า

เราประเมิน ROI ที่ 4.6% สำหรับปี 2560 และ 2561 จาก 5.2% ในปีที่แล้วและ 4.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 เรามองเห็นโอกาสให้ BLA เพิ่มการ
ลงทุนในพันธบัตรระยะยาวมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยบริษัทลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท (9.9 % ของการลงทุนทั้งหมด) ในพันธบัตรต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 6% โดย Morgan Stanley ประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ทรงตัวที่ 1.5% ในปี 2560 และเพิ่มขึ้นเป็น 2% ในปีหน้า หากเป็นไปตามที่ MS คาด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี มีโอกาสจะสูงขึ้นอีกในปีหน้าจาก 2.2% ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีอัพไซด์ต่อประมาณการ ROI ปี 2561 ของเรา

คงเป้าสำรองกรมธรรม์ ปี 2560 ที่ 55-57% น้อยกว่าเราคาดที่ 59%

BLA เปลี่ยนนโยบายในครึ่งหลังปี 2560 เป็นมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ระยะกลางถึงระยะยาว (ผลิตภัณฑ์ประกันแบบสะสมทรัพย์ระยะกลาง, ประกันสุขภาพและเบี้ยประกันแบบชำระครั้งเดียว) โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขายได้ง่ายกว่าประกันแบบตลอดชีพ, ทั้งนี้เรายังคงมีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถขายเบี้ยประกันโดยรวมในปี 2560 ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY โดยมุ่งเน้นที่ผลิตภัณฑ์ระยะกลางในช่วงครึ่งหลังของปี 2560เป็นหลัก เราคาดว่าการตั้งสำรองของเบี้ยประกันชีวิตรวมในครึ่งหลังของปี 2560 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 65% ของเบี้ยประกันชีวิตรับสุทธิ จาก 55% ในครึ่งแรก เรายังคงสมมติฐานการตั้งเบี้ยสำรองประกันชีวิตเชิงอนุรักษ์นิยมปี 2560 ที่ 59% ของเบี้ยประกันรวม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ BLA เล็กน้อยที่ช่วง 55-57% หาก BLA สามารถทำได้ตามเป้า เรามองว่าจะเป็นแนวโน้มการเพิ่มประมาณการกำไรของเราปีนี้และปีหน้า